โบรกฯเชียร์"ซื้อ"KTB รับปันผลวายุภักษ์พันล้านใน Q1/54,ปีนี้โตต่อเนื่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 10, 2011 09:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์เห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้น ธนาคารกรุงไทย(KTB) คาดกำไรในงวดไตรมาส 1/54 จะออกมาดี รับเงินปันผลจากวายุภักษ์ถึง 1,030 ล้านบาท และคาดว่าสินเชื่อของ KTB ก็ยังเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง

แนวโน้มธุรกิจของ KTB ในปีนี้ยังมีการเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง จากสินเชื่อที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง และรายได้จากค่าธรรมเนียมที่เติบโตขึ้น โดยมีปัจจัยเสริมจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และการที่อัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นก็เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มแบงก์ โดยคาดว่าสินเชื่อของ KTB ปีนี้จะเติบโตได้ประมาณ 7-8%

ส่วนตัวเลข NPL ของ KTB ในปีนี้คงจะไม่น่ากลัว เพราะเมื่อสิ้นปี 53 ตัวเลข NPL ลดลงมาเหลือแค่ 5% จากปี 52 ที่มีอยู่ 6.5% และปีนี้ทาง KTB ก็วางเป้าหมายว่าจะให้ลดลงไปอีก ดังนั้นการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญคงจะเป็นปกติ โดยปีนี้(2554)คงจะตั้งสำรองฯประมาณ 6,000-6,200 ล้านบาท

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้(54)ไว้ในช่วง 17,200-18,294 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว(53)ที่มีกำไรสุทธิ 15,207 ล้านบาท

ในส่วนอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล(Divident Yield)ปีนี้ก็ยังคาดว่าจะสูงสุดในกลุ่มแบงก์ โดยคาดว่าจะมี Divident Yield ประมาณ 3.4% ขณะที่ BBL คาดมี Divident Yield 3.3%, SCB มี 3.1% และ TMB มี 2%

          โบรกเกอร์                   คำแนะนำ     ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          บล.กสิกรไทย                   ซื้อ              20.50
          บล.โกลเบล็ก                   ซื้อ              23.00
          บล.ไทยพาณิชย์                  ซื้อ              22.20
          บล.ฟิลิป(ประเทศไทย)            ซื้อ              21.20
          บล.เอเชีย พลัส                 ซื้อ              21.20
          บล.กรุงศรีอยุธยา                ซื้อ              20.00
          บล.โนมูระ พัฒนสิน               ซื้อ              20.50
          บล.ยูโอบีเคย์เฮียน(ประเทศไทย)    ซื้อ              20.00
          บล.ทรีนีตี้                      ซื้อ              20.00

น.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) เปิดเผยว่า แนะนำ"ซื้อ"หุ้น KTB ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 21.20 บาท/หุ้น คิดเป็น P/BV. อยู่ที่ 1.7 เท่า คาดการณ์ว่ากำไรในงวดไตรมาส 1/54 จะออกมาดี เนื่องจาก KTB ได้รับเงินปันผลจากวายุภักษ์ถึง 1,030 ล้านบาท และคาดว่าสินเชื่อของ KTB ก็ยังเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง โดยสินเชื่องวดเดือนมกราคมที่ผ่านมาถือว่าออกมาดีกว่าคาด แต่ในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมยังต้องรอดูก่อนเพราะภาพยังไม่ชัดเจน

อย่างไรก็ดี ภาพโดยรวมของ KTB ในปีนี้มองว่าจะยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าสินเชื่อจะเติบโตได้ประมาณ 7% ขณะที่ผู้บริหาร KTB คาดว่าสินเชื่อปีนี้จะเติบโตอย่างน้อย 6% ขณะที่สินเชื่อทั้งระบบคาดว่าจะเติบโต 8-9% โดยปีนี้ KTB คงจะมีการเติบโตของสินเชื่อที่มาจาก Corporate มากขึ้น เนื่องจากเป็นการต่อยอดมาจากภาครัฐฯ ซึ่งเมื่อปีที่แล้ว KTB ปล่อยสินเชื่อให้กับภาครัฐมาก แต่ปีนี้คิดว่าคงจะปล่อยน้อยลง

สำหรับตัวเลข NPL ของ KTB ในปีนี้คงจะไม่น่ากลัว เพราะเมื่อสิ้นปี 53 ตัวเลข NPL ลดลงมาเหลือแค่ 5% จากปี 2552 ที่มีอยู่ 6.5% และปีนี้ทาง KTB ก็วางเป้าหมายว่าจะให้ลดลงไปอีก

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 54 ไว้ที่ 17,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 15,200 ล้านบาท โดยมาจากสินเชื่อที่ขยายตัว และมองว่าการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจะกลับมาเป็นปกติ ที่เดือนละ 500 ล้านบาท/เดือน ปีนี้(2554)ก็คงจะตั้งสำรองฯ 6,000 ล้านบาท

นายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า KTB จะได้รับประโยชน์จากการลงทุนของภาครัฐฯ ทำให้ปีนี้มีการขยายตัวของกำไรที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับแบงก์ใหญ่ โดยปี 54 คาดว่า KTB จะมีกำไรสุทธิ 18,294 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 15,207 ล้านบาท

นอกจากนี้ ในส่วนอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล(Divident Yield)ปีนี้ก็ยังคาดว่าจะสูงสุดในกลุ่มแบงก์ โดยคาดว่าจะมี Divident Yield ประมาณ 3.4% ขณะที่ BBL คาดมี Divident Yield 3.3%, SCB มี 3.1% และ TMB มี 2%

ส่วนนายธนัท รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรีอยุธยา แนะนำ"ซื้อ"หุ้น KTB ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 20 บาท/หุ้น เนื่องจากแนวโน้มธุรกิจของ KTB ในปี 54 ยังมีการเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง จากสินเชื่อที่ขยายตัวและรายได้จากค่าธรรมเนียมที่เติบโตขึ้น โดยมีปัจจัยเสริมจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และการที่อัตราดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นก็เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มแบงก์

ทั้งนี้ คาดว่า KTB ปีนี้จะมีการขยายตัวของสินเชื่อประมาณ 8% ซึ่งถือว่าใช้ได้ภายใต้ตัวเลข GDP ที่คาดว่าปีนี้จะเติบโต 4-5% ส่วนตัวเลข NPL ก็ไม่ได้ปัญหาอะไร ปีนี้คงจะมีการตั้งสำรองฯตามปกติได้ ประมาณ 6,100-6,200 ล้านบาท

พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 54 ที่ 17,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบจากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 15,200 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ