ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงหลุดจากระดับ 12,000 จุดเมื่อคืนนี้ (10 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากจีนและสหรัฐรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงการที่จีนมีการขาดดุลการค้าเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี และจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาด นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากเหตุการณ์ประท้วงในซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก และจากข่าวมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 228.48 จุด หรือ 1.87% ปิดที่ 11,984.61 จุด ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 24.91 จุด หรือ 1.89% ปิดที่ 1,295.11 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 50.70 จุด หรือ 1.84% ปิดที่ 2,701.02 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กผันผวนอย่างหนักเนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้น ซึ่งเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากจีนและสหรัฐรายงานผลประกอบการที่อ่อนแอ โดยสำนักงานศุลกากรของจีนรายงานเมื่อวานนี้ว่า จีนมียอดขาดดุลการค้ามูลค่า 7.3 พันล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. เนื่องจากวันหยุดในช่วงเทศกาลตรุษจีนได้ส่งผลให้กิจกรรมในโรงงานที่ผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกชะลอตัวลง ซึ่งทำให้จีนขาดดุลการค้าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2552
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐนั้น จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 5 มี.ค.เพิ่มขึ้น 26,000 ราย แตะระดับ 397,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 378,000 ราย นอกจากนี้ ยอดขาดดุลการค้าเดือนม.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้น 15.1% แตะระดับ 4.63 หมื่นล้านดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 4.15 หมื่นล้านดอลลาร์ และเป็นการปรับตัวขึ้นที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 18 ปี
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซนยังคงเป็นปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก โดยเมื่อวานนี้ มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือสเปนลงสู่ระดับ Aa2 พร้อมให้แนวโน้มเป็นลบ เนื่องจากความวิตกกังวลว่าค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างภาคธนาคารจะปรับตัวสูงขึ้นถึง 4-5 หมื่นล้านยูโร ซึ่งสูงกว่าที่รัฐบาลได้คาดการณ์ไว้ที่ 2 หมื่นล้านยูโร (2.8 หมื่นล้านดอลลาร์)
นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในซาอุดิอาระเบีย โดยมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงปืนเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่าเหตุการณ์ตึงเครียดทางการเมืองอาจลุกลามในตะวันออกกลาง และอาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.พ. และตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนม.ค.