นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ์ บล.เคจีไอ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ถึงสถานการณ์แผ่นดินไหว 8.9 ริกเตอร์ที่ถล่มประเทศญี่ปุ่นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยน้อยมาก เนื่องจากระยะหลังไทยมีการส่งออกไปยังญี่ปุ่นค่อนข้างน้อย แค่ 8% จากอดีตที่เคยมีการส่งออกไปญี่ปุ่น 15% แต่ทั้งนี้บริษัทที่ทำการส่งออกไปญี่ปุ่นก็อาจจะได้รับผลกระทบบ้าง
สำหรับธุรกิจในญี่ปุ่นพวกโรงกลั่นและปิโตรเคมีหลายแห่งที่ถูกปิดไปภายหลังเกิดแผ่นดินไหว ตรงนี้มองว่าธุรกิจโรงกลั่น และปิโตรเคมีจะดูดีขึ้นในช่วงสั้น โดยมองจากค่าการกลั่นที่มีโอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้น แต่คิดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ก็จะหยุดเล่นเก็งหุ้นพวกนี้
"แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นที่ญี่ปุ่นมองว่าจะส่งผลกระทบไม่ยาวนานนัก เพราะภายหลังเหตุการณ์สงบก็จะมีการซ่อมบำรุงต่าง ๆ ขึ้นมา เพียงแต่ระยะสั้นก็จะทำให้ค่าการกลั่นมีโอกาสที่จะปรับตัวสูงขึ้นได้ แต่คิดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ ก็จะหยุดเล่นเก็งหุ้นพวกนี้"นายรักพงศ์ กล่าว
อย่างไรก็ดี สถานการณ์แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่พึ่งจะเกิดขึ้น 2-3 ชั่วโมงที่ผ่านมาเท่านั้น อีกทั้งยังไม่มีการประเมินความเสียหายในวงกว้างด้วย ดังนั้นจึงต้องรอผลความเสียหายที่ชัดเจนอีกครั้งก่อน
ล่าสุด หุ้น TOP ปิดที่ 77.75 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท(+1.30%)มูลค่าซื้อขาย 1,329.03 ล้านบาท