บลจ.ไทยพาณิชย์ ขายกองทุนหุ้นอายุ 1 ปี มูลค่า 1 พันลบ. คาดผลตอบแทน 10%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 14, 2011 12:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บลจ. ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมเปิดขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ทริกเกอร์ 10% ฟันด์ 2 อายุประมาณ 1 ปี โดยจะเน้นลงทุนในหุ้นไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีศักยภาพในการเติบโต ผสมกับตราสารหนี้หรือเงินฝาก หรือ SET50 Index Futures ด้วยมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท โดยจะเปิดขายระหว่างวันที่ 15-21 มีนาคม 2554 ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท

กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ทริกเกอร์ 10% ฟันด์ 2 มีจุดเด่นที่กำหนดเป้าหมายผลตอบแทนไว้ที่ 10% และสามารถปิดกองทุนได้ก่อนกำหนดภายใน 1 ปี หากมูลค่าหน่วยลงทุนเท่ากับหรือมากกว่า 11.20 บาท/หน่วยเป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกัน และวันทำการถัดไปทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดหรือเงินฝากทั้งหมด และสามารถรับซื้อคืนได้ไม่ต่ำกว่า 11 บาท/หน่วย หรือ ณ วันทำการใดทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดหรือเงินฝาก และบริษัทสามารถรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติในมูลค่าไม่น้อยกว่า 11 บาท/หน่วย โดยผู้จัดการกองทุนจะคอยจับจังหวะการลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามเป้าหมาย นอกจากนี้ยังมีปรับน้ำหนักการลงทุนและเงินสดให้สอดคล้องกับสภาวะการลงทุนในแต่ละขณะ และอาจใช้ SET50 Index Futures เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะตลาดขาลง

สำหรับกลยุทธ์การบริหารกองทุนนั้นจะเน้นการบริหารเชิงรุก โดยจัดสรรน้ำหนักการลงทุนและการคัดสรรหุ้น เพื่อลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีมีการเติบโตสูง และได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และการบริโภคภายในประเทศ อาทิ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มพลังงาน และกลุ่มอาหาร เป็นต้น

นอกจากนี้ บริษัทยังเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นที่เป็นการผสมเงินฝากธนาคารต่างประเทศกับตราสารหนี้ในประเทศเพิ่มอีกจำนวน 2 กองทุน ขนาดมูลค่ากองทุนละ 5,000 ล้านบาท ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ 6M11 อายุ 6 เดือน คาดผลตอบแทนประมาณ 2.75% ต่อปี มีนโยบายการลงทุนในเงินฝากธนาคาร HSBC หรือธนาคาร National Bank of Abu Dhabi ในสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรสต์ (UAE)โดยมีอันดับความน่าเชื่อถือจากฟิทช์เรทติ้งส์ อยู่ที่ F1+ มีสัดส่วนการลงทุน 20% เงินฝากธนาคาร Union National Bank ในสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรสต์ อันดับความน่าเชื่อถืออยู่ ที่ F1 สัดส่วน 25% หุ้นกู้ระยะสั้นธนาคารทหารไทย และ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) อันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ F1/ F1+ สัดส่วน 50% ที่เหลือเป็นพันธบัตรรัฐบาลไทย 5% พร้อมปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) เรียบร้อยแล้ว

และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ 3M 6 อายุ 3 เดือน คาดผลตอบแทนประมาณ 2.50% ต่อปี โดยลงทุนในเงินฝากธนาคารออมสิน 20% หุ้นกู้ระยะสั้นและเงินฝากธนาคารต่างประเทศ ซึ่งได้รับการจัดอันดับเครดิตจากฟิทช์ เรทติ้งส์ อยู่ที่ F1/F1+ ในสัดส่วน 25% เท่ากัน คือ หุ้นกู้ระยะสั้นของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) และธนาคารทหารไทย และเงินฝาก ธนาคาร Union National Bank ในสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ส่วนที่เหลือลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย 5%

นางโชติกา กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยคาดว่าจะสามารถปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 1,200 จุด ได้ภายในปี 54 โดยเศรษฐกิจไทยยังคงมีแนวโน้มเติบโตในเกณฑ์ที่ดี ทั้งด้านการบริโภค การส่งออก การลงทุนภาคเอกชน และการใช้จ่ายภาครัฐ นอกจากนี้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทยคาดว่าจะเติบโตได้ในระดับ 15-20% จะเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดหุ้นไทยตลอดปี 54 อย่างไรก็ดีปัจจัยเสี่ยงด้านเงินเฟ้ออาจสร้างความกังวลให้ตลาดหุ้นอยู่บ้างแต่คาดว่าจะยังอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ