EASTW เป้าปี 54 กำไรโตตามรายได้ที่คาดโต 8-10% ปริมาณใช้น้ำโต 15-20%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 14, 2011 17:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประพันธ์ อัศวอารี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) เปิดเผยว่าในปี 54 คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตในทิศทางเดียวกับรายได้ที่คาดว่าจะเติบโต 8-10% จากปี 53 ทีมีรายได้ประมาณ 3.1 พันล้านบาท และพยายามรักษาอัตรากำไรสุทธิปีนี้เท่าปีก่อนที่อยู่ 27.87%

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าปริมาณการใช้น้ำในปีนี้จะเติบโต 15-17% เป็น 287 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปีก่อนที่มี 245 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งปริมาณการใช้น้ำที่เพิ่มขื้น เพราะกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเริ่มกลับมาเดินเครื่องการผลิต รวมทั้งปริมาณการใช้น้ำของกลุ่มลูกค้าเดิมก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าปริมาณการใช้น้ำเฉลี่ยในช่วง 4 ปี ข้างหน้าจะอยู่ที่ 7.65%

“ปริมาณการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นปีนี้ก็มาจากตัวปิโตรเคมีเฟส 3 ที่จะเริ่มเดิมเครื่อง โดยเฉพาะดาว เคมิคอล ที่จะเริ่ม start up ในปีนี้ รวมทั้งการขยายตัวของกลุ่มลูกค้าเดิม"นายประพันธ์ กล่าว

สำหรับสัดส่วนลูกค้าของบริษัทนปีนี้คาดว่าจะยังเหมือนกับปี 53 โดยเป็นลูกค้าภาคอุตสาหกรรม 65% ส่วนอีก 35% เป็นภาคครัวเรือน ขณะที่บริษัทได้ตั้งงบลงทุนประมาณ 1 พันล้านบาท เพี่อใช้ในการสร้างโรงสูบน้ำเพิ่มเติม รวมถึงการลงทุนต่อเนื่องในโครงการวางท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-มาบตาพุด เส้นที่ 3

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการศึกษาการลงทุนในธุรกิจบำบัดน้ำเสียเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงให้กับธุรกิจ รวมถึงการลงทุนในต่างประเทศ ส่วนธุรกิจการกรองน้ำทะเลเป็นน้ำจืด อยู่ระหว่างการศึกษาในหลายพื้นที่ แต่ก็จะยังคงอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก

“ธุรกิจ RO กรองน้ำทะเลเป็นน้ำจืด เราก็ดูอยู่หลายเกาะ ต้องเป็นเกาะที่มีนักท่องเที่ยวสม่ำเสมอ ส่วนธุรกิจบำบัดน้ำเสียตอนนี้ก็มีหลายบริษัทที่เป็นกลุ่มลูกค้าเราขอให้ไปทำ แต่โครงการใหญ่ต้องรอดูนโยบายภาครัฐ"นายประพันธ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทยังไม่นโยบายปรับราคาขายน้ำ โดยราคาน้ำดิบอยู่ที่ 9.25 บาท/ลูกบาศก์เมตร แม้ว่าต้นทุนในการผลิตโดยภาพจะเพิ่มขึ้น แต่บริษัทยังสามารถควบคุมได้ โดยเมื่อช่วงปลายปี 53 บริษัทได้ปรับเปลี่ยนระบบไฟฟ้าใหม่ จากระบบ 22 กิโลวัตต์ เป็น 115 กิโลวัตต์ ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าและทำให้มีต้นทุนในการผลิตที่ต่ำกว่า นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า บริษัทมีแนวคิดที่รีไฟแนนซ์เงินกู้เดิมเพื่อลดต้นทุนดอกเบี้ยจ่าย จากปัจจุบันบริษัทมีเงินกู้จากธนาคารออมสินอยู่ประมาณ 1.7 พันล้านบาท ดอกเบี้ย 3.5% ต่อปี ซึ่งอาจเปลี่ยนมาเป็นการออกตั๋วแลกเงิน (บีอี) ซึ่งมีดอกเบี้ย 2% ซึ่งก็จะช่วยให้ประหยัดดอกเบี้ยได้ 1.5% คาดว่าน่าจะดำเนินการได้ภายในปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ