ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดร่วงลงกว่า 1,000 จุดในวันนี้ (15 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนได้เข้ามากระหน่ำขายหุ้นอย่างตื่นตระหนก อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุระเบิดและการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิม่า
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิร่วงลง 1,015.34 จุด หรือ 10.55% ปิดที่ 8,605.15 หลังจากดิ่งลงไปแตะระดับ 8,227.63 จุดในระหว่างวัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2552
โบรกเกอร์กล่าวว่า ราคาหุ้นในตลาดหุ้นโตเกียวดิ่งลงอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนแห่เทขายสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากมีรายงานว่าเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่เตาปฏิกรณ์หมายเลข 2 ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่าหมายเลข 1 ในช่วงเช้าวันนี้
บริษัทโตเกียว อิเล็คทริค เพาเวอร์ (TEPCO) เปิดเผยว่า เกิดเหตุระเบิดที่เตาปฏิกรณ์หมายเลข 2 ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่า ซึ่งส่งผลให้ระดับสารกัมมันตรังสีพุ่งสูงขึ้น ขณะที่สถานีโทรทัศน์ NHK รายงานว่า ระดับของสารกัมมันตรังสีในขณะนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์
สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) เตือนว่า มีความเป็นไปได้ที่ S&P จะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ TEPCO ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงานนิวเคลียร์จังหวัดฟุกุชิม่า ขณะที่มูดีส์ เจแปน เคเค ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ของสหรัฐ ระบุว่า อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ TEPCO เนื่องจากความกังวลที่ว่า TEPCO อาจจะต้องใช้เงินลงทุนมหาศาลในการชดเชยโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ได้รับความเสียหาย และอาจทำให้ต้นทุนด้านอื่นๆของ TEPCO สูงขึ้นด้วย