(เพิ่มเติม) SATเป้าปี 54 รายได้โต 12-15%ที่ 7.2-7.3 พันลบ.เล็งทบทวนเป้าช่วงกลางปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 15, 2011 15:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวีระยุทธ กิตะพาณิชย์ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี(SAT) เปิดเผยว่า ในปี 54 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 12-15% เป็น 7.2-7.3 พันล้านบาท จากปี 53 ที่มีรายได้ 6.3 พันล้านบาท ซึ่งในไตรมาสแรกนี้ยอดขายเติบโตแล้ว 22-24% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เช่นเดียวกับยอดผลิตรถในประเทศที่ 4.7 แสนคัน เติบโต 12% จากไตรมาส 1/53

อย่างไรก็ตาม ช่วงกลางปีนี้บริษัทอาจจะทบทวนเป้าหมายการเติบโตในปีนี้ หลังจากเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งรุนแรงในญี่ปุ่น แต่ขณะนี้คำสั่งซื้อ(ออร์เดอร์)ในช่วง 4 เดือนข้างหน้ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลง

"ยอมรับว่าครึ่งปีหลังต้องเฝ้าระวัง และมอนิเตอร์ดูถึงผลกระทบหลังเกิดภัยพิบัติในญี่ปุ่น และยอมรับว่าปัจจัยความเสี่ยงราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังเชื่อว่ายอดการผลิตรถในประเทศยังจะได้ 1.8 ล้านคัน ยังเป็นไปได้"นายวีระยุทธ กล่าว

นายวีระยุทธ กล่าวว่า บริษัทยังไม่สามารถประเมินผลกระทบจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิหลายพื้นที่ในญี่ปุ่น คาดว่าลูกค้าในญี่ปุ่นคงต้องใช้เวลาประเมินสถานการณ์ในเบื้องต้นไม่น้อยกว่า 2-3 วัน แต่ในระยะสั้นที่บริษัทรถยนต์ขนาดใหญ่หยุดการผลิตช่วงโอทีในสัปดาห์นี้มีเพียงรายเดียว แต่รายอื่นกัยังดำเนินการปกติ ซึ่งประเมินว่าผลกระทบต่อบริษัทน่าจะมีน้อยมาก

ทั้งนี้ ลูกค้าหลักของบริษัท ได้แก่ มิตซูบิชิ 30%ของรายได้ รองลงมาเป็น โตโยต้า 26% และ อีซูชุ 7%

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่บริษัทกังวลในขณะนี้ คือ การนำเข้าเหล็กจากญี่ปุ่นมาใช้เป็นวัตถุดิบอาจจะมีปริมาณไม่เพียงพอ แต่เท่าที่ตรวจสอบแหล่งนำเข้ามาจากทางตอนใต้เมืองโตเกียวยังไม่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ แต่บริษัทก็ได้ศึกษาการนำเข้าเหล็กจากประเทศอื่นมาใช้ทดแทน เช่น อินเดีย แม้ว่าก่อนหน้านี้ลูกค้าค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นยังไม่อนุมัติให้ใช้จากแหล่งอื่นมาแทนเหล็ก special steel จากญี่ปุ่นก็ตาม คาดว่าสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้าจะรู้ผลการศึกษา

ปัจจุบัน บริษัทใช้เหล็กนำเข้าจากต่างประเทศ สัดส่วน 2 ใน 3 ของการผลิต และใช้ในประเทศ 1 ใน 3

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมทยอยปรับขึ้นราคาสินค้าตามต้นทุนสินค้าที่ปรับขึ้น 5% โดยได้ปรับขึ้นไปแล้วบางส่วนในไตรมาส 1/54 และจะปรับอีกบางส่วนในไตรมาส 2/54 โดยบริษัทจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 20% เพราะในปีนี้มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น จะช่วยประคองอัตรากำไรขั้นต้นไม่ตกต่ำกว่าปีก่อน

ขณะที่สัดส่วนรายได้จากการผลิตชิ้นส่วนรถอีโคคาร์ในปีนี้เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทได้ออเดอร์เพิ่มเข้ามาจากนิสสัน มาร์ช รุ่น 4 ประตู และรุ่น 5 ประตู รวมทั้งได้ออเดอร์จากฮอนด้า มิตซูบิชิ และอีซูซุ ส่วนยอดขายรถคูโบต้าจะเพิ่มเป็น 900 ล้านบาทจากปีก่อน 400 ล้านบาท

นายวีระยุทธ กล่าวว่า ในปี 54 ใช้ลงทุน 2 พันล้านบาท ใช้ขยายกำลังการผลิตโรงหล่อ ซึ่งเป็นการลงทุนจากปีก่อน (ICP2) จำนวน 800 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ก.ค. 54 มีกำลังผลิต 2.5 พันตัน/เดือน โดยจะช่วยเพิ่มกำไรได้มากขึ้น, ขยายกำลังการผลิตเพลาข้าง 400 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัท ในช่วง 3 ปี(ปี 53-55) บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ 3.5 พันล้านบาท โดยในปีก่อนใช้แล้ว 1 พันล้านบาท และปี 55 จะใช้ 500 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ