ม.ร.ว.ศุภดิศ ดิศกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ. บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) คาดว่า บริษัทจะสามารถจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการงวดปี 54 ได้สูงขึ้นจากปีก่อน หลังจากบริษัทปรับโครงสร้างหนี้สำเร็จ ซึ่งจะทำให้กระแสเงินสดของบริษัทดีขึ้น
"ปกติ เราต้องจ่ายหนี้ปีละ 700 ล้านบาท แต่ปีนี้ได้เริ่มยืดภาระหนี้ออกไป ทำให้ปีนี้จ่ายแค่ 324 ล้านบาท แม้ว่าการปรับโครงสร้างหนี้จะทำให้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น แต่ก็ทำให้กระแสเงินสดของบริษัทมีสภาพคล่องมากขึ้น และถ้าบริษัทยังไม่มีการจ่ายโครงการใดๆ ก็จะจ่ายเงินปันผลได้มากขึ้นในปีนี้" ม.ร.ว. ศุภดิศ กล่าว
แผนการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัทนั้น ปัจจุบันบริษัทมีภาระหนี้ 1,915 ล้านบาท ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย 355.6 ล้านบาท ได้ยืดเวลาชำระหนี้ออกไปเป็นเดือน ส.ค.61 จากครบกำหนดเดือน ก.พ.57, ธนาคารกรุงเทพ 1,340 ล้านบาท จะครบกำหนดชำระในเดือน ธ.ค.57 ปรับเป็นเดือน ธ.ค.61, ธนาคารธนชาต 220 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดในเดือน พ.ย.58 ยืดไปชำระเดือน พ.ย. 61
ม.ร.ว.ศุภดิศ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทยังคงเป้ารายได้รวมในปี 54 เติบโต 5% จากปี 53 ที่มีรายได้ 2,219 ล้านบาท จากการให้บริการเติมน้ำมันเพิ่มขึ้นในปีนี้ 4.2% มาอยู่ที่ 4,497 ล้านลิตร จากปีก่อนมีปริมาณ 4,311 ล้านลิตร
ในช่วงในไตรมาส 1/54 คาดว่าจะมีปริมาณเติมน้ำมันเติบโต 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 13 ล้านลิตร/วัน จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีปริมาณ 12 ล้านลิตร/วัน โดยในช่วง 2 เดือนแรก เติบโตเฉลี่ย 7% เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น และสถานการณ์การเมืองในประเทศนิ่ง ซึ่งคาดว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่น่าจะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย
สำหรับเหตุภัยพับัติในญีปุ่นยังไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท เพราะยังไม่มีการยกเลิกเที่ยวบินไปที่ญี่ปุ่น แต่ทั้งนี้มองว่าระยะสั้นเที่ยวบินขาออกจากไทยไปญี่ปุ่นคงจะมีนักท่องเที่ยวลดลง และนักท่องเที่ยวคงเปลี่ยนไปประเทศอื่นแทน ในทางกลับกันเที่ยวบินขาเข้าก็อาจจะมีคนไทยกลับจากญี่ปุ่นมากขึ้น
ทั้งนี้ จำนวนเที่ยวบินระหว่างไทยไปญี่ปุ่น และญี่ปุ่นมาไทย มีประมาณ 2% ของจำนวนเที่ยวบินทั้งหมด หรือคิดเป็นสัดส่วนรายได้ 1.5% อย่างไรก็ตาม เชื่อจะเห็นภาพชัดเจนในช่วง 1 เดือนนี้ว่าจะมีผลกระทบหรือการยกเลิกเที่ยวบินอย่างไร
ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น บริษัทไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่เป็นสายการบินมากกว่าที่ได้รับผลกระทบโดยตรง
ม.ร.ว.ศุภดิศ กล่าวอีกว่า บริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้ จำนวน 61 ล้านบาท ได้แก่ การซ่อมแซมและปรับปรุงสภาพรถเติมน้ำมัน , การสั่งซื้อหัวปั๊ม , การลงทุนระบบไอที และการใช้จ่ายในสำนักงาน
ส่วนแผนการลงทุนในอนาคต บริษัทจะก่อสร้างคลังเก็บน้ำมันที่สุวรรณภูมิ คาดใช้เงินลงทุน 350 ล้านบาท โดยแผนงานจะอยู่ในช่วงปี 55-56 , และวางท่อส่งน้ำเมัน คาดใช้เงินลงทุน 700 ล้านบาท โดยแผนงานจะอยู่ในช่วงปี 54-56