SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,007.91 จุด เพิ่มขึ้น 4.81 จุด(+0.48%)มูลค่าการซื้อขาย 14,438.80 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้บวกเล็กน้อยตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่รีบาวด์หลังจากร่วงลงแรงจากความกังวลผลกระทบจากสถานการณ์ภัยพิบัติในญี่ปุ่น โดยตลาดฯวันนี้ได้รับแรงหนุนจากกลุ่มปิโตเคมีและกลุ่มพลังงาน แนะติดตามเหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของญี่ปุ่นหากไม่รุนแรง ดัชนี SET มีโอกาสทะลุไปที่ 1,020 จุด คาดบ่ายตลาดฯแกว่งแคบ พร้อมให้แนวรับ 1,000-1,005 จุด แนวต้าน 1,010-1,013 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,007.91 จุด เพิ่มขึ้น 4.81 จุด(+0.48%)มูลค่าการซื้อขาย 14,438.80 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,009.42 จุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,004.55 จุด
นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นในช่วงเช้าปรับตัวบวกแต่ไม่มาก โดยเป็นการรีบาวด์ในกรอบแคบๆ หลังจากเมื่อวานนี้ตลาดปรับตัวลงแรง ซึ่งเป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกในวันนี้ และดัชนีพยายามขึ้นไปทดสอบที่ 1,010 จุดแต่ยังไปไม่ถึง
การที่ดัชนี SET อยู่ในแดนบวกมาจากแรงซื้อในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ซึ่งเป็นกลุ่มที่นักลงทุนมองว่าจะได้รับผลประโยชน์จากปัญหาภัยพิบัติที่ญี่ปุ่น ขณะที่ยังมีประเด็นที่ต้องติดตามการรั่วไหลของสารกัมมันตภาพรังสีจากเหตุการณ์ระเบิดที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของญี่ปุ่น จึงทำให้ตลาดไปไม่ได้ไกล แม้นักลงทุนจะคลายความวิตกลงระดับหนึ่งแล้ว
"เมื่อวานลงแรง เป็นธรรมดาที่วันนี้จะปรับขึ้น แต่ที่ไม่มากเพราะคนรอดูการยืนยันจากทางการญี่ปุ่นว่าสารกัมมันตภาพรังสีเป็นอันตรายหรือไม่ รวมทั้งโรงไฟฟ้าไฟไหม้ หาก 2 เรื่องได้รับการยืนยันว่าสามารถรับมือได้ ไม่อันตรายก็จะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทย ตอนนี้ถ้าจะเล่นก็เล่นได้ 2 กลุ่มพลังงานกับปิโตรเคมี เพราะเป็นกลุ่มที่น่าจะได้ประโยชน์จากปัญหาดังกล่าว"นายเกียรติก้อง กล่าว
อย่างไรก็ตาม ด้านปัจจัยในประเทศในเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจคงต้องติดตามต่อ เพราะตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลที่สร้างแรงสะเทือนให้กับรัฐบาลมากนัก ยังเป็นการอภิปรายข้อมูลเดิมๆ ดังนั้น การลงมติครั้งนี้รัฐบาลก็น่าจะผ่านไปได้ และมองว่าประเด็นดังกล่าวไม่มีผลต่อตลาดหุ้นไทยด้วย
สำหรับตลาดหุ้นในช่วงบ่าย มองว่ายังคงแกว่งในแดนบวก หากไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ขณะที่ดัชนีตลาดนิกเกอิบวกแรง เป็นปัจจัยสนับสนุนต่อตลาดหุ้นในเอเชีย รวมทั้งตลาดหุ้นไทย โดยมองแนวรับ 1,000-1,005 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,010-1,013 จุด แนะลงทุนในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,665.08 ล้านบาท ปิดที่ 748.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,108.56 ล้านบาท ปิดที่ 25.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
TOP มูลค่าการซื้อขาย 901.79 ล้านบาท ปิดที่ 80.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 696.82 ล้านบาท ปิดที่ 340.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
IVL มูลค่าการซื้อขาย 690.60 ล้านบาท ปิดที่ 50.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท