SET ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,008.13 จุด เพิ่มขึ้น 5.03 จุด(+0.50%)มูลค่าการซื้อขาย 29,065.44 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในแดนบวกทั้งวัน แต่เป็นการรีบาวด์ทางเทคนิคจากเมื่อวานที่ปรับลงไปแรง เลือกลงทุนเป็นรายตัวที่มองว่าน่าจะได้รับประโยชน์จากภัยพิบัติในญี่ปุ่น ด้านปัจจัยในประเทศไม่มีประเด็นใหม่เข้ามาสนับสนุน ดัชนีจึงแกว่งตัวได้ไม่มาก พรุ่งนี้ตลาดฯคงแกว่งแคบ พร้อมให้แนวรับช่วง 997-995 จุด ส่วนแนวต้าน 1,015-1,018 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,008.13 จุด เพิ่มขึ้น 5.03 จุด(+0.50%)มูลค่าการซื้อขาย 29,065.44 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวทั้งในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ 1,011.30 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,004.55 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 255 หลักทรัพย์ ลดลง 123 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 146 หลักทรัพย์
นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในแดนบวกตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย เป็นการปรับขึ้นมาทางเทคนิคหลังจากเมื่อวานลงไปแรง ขณะที่ยังมีประเด็นสถานการณ์ในญี่ปุ่นยังไม่ชัดเจนและคลุมเคลือว่าจะสามารถจัดการออกมาในรูปแบบใด โดยเฉพาะการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ อย่างไรก็ตาม มองว่าความผันผวนยังคงมี และต้องติดตามบริษัทในญี่ปุ่นอาจมีแนวโน้มที่จะขายสินทรัพย์ลงทุนในต่างประเทศออกมา
ทั้งนี้ การปรับขึ้นของหุ้นในวันนี้อยู่ในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากภัยพิบัติในญี่ปุ่น นำโดยกลุ่มปิโตรเคมี พลังงาน และอาหาร แต่เป็นการเลือกเล่นรายตัว ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงบ่ายส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน ส่วนปัจจัยในประเทศตอนนี้ยังไม่มีเรื่องใหม่เข้ามาสนับสนุนในเชิงบวก และเชื่อว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็น่าจะผ่านไปได้ด้วยดี
"สัปดาห์นี้ตลาดคงไม่ไปไหนไกล และคงปรับไม่ได้สูง อย่างที่เคยไปที่ 1,025 จุดเหมือนสัปดาห์ก่อน เพราะทุกคนจะรอดูสถานการณ์ที่ญี่ปุ่นว่าจะจัดการอย่างไรก่อน แต่ถ้าลงทุนก็เลือกลงทุนเอา โดยเฉพาะหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากปัญหา รวมทั้งหุ้นที่ให้ divident"นายชัย กล่าว
สำหรับแนวโน้มการลงทุนวันพรุ่งนี้(17 มี.ค.54)นักวิเคราะห์ฯมองว่าดัชนีคงยังอยู่ในแดนบวก แต่คงไปต่อได้ไม่มาก แนะจับตาดูตลาดต่างประเทศเป็นหลัก รวมทั้งติตดามสถานการณ์ในประเทศญี่ปุ่น พร้อมให้แนวรับไว้ในช่วง 997-995 จุด ส่วนแนวต้าน 1,015-1,018 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,672.15 ล้านบาท ปิดที่ 742.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,828.35 ล้านบาท ปิดที่ 24.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
TOP มูลค่าการซื้อขาย 1,752.96 ล้านบาท ปิดที่ 80.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,331.42 ล้านบาท ปิดที่ 49.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,267.51 ล้านบาท ปิดที่ 339.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท