บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมิคัลส์(SGP) ตั้งเป้ารายได้เติบโต 40% ตามปริมาณการให้ก๊าซทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่กำไรก็จะเติบโตจากปีก่อนที่มีกำไร 1,179 ล้านบาทเช่นกัน เนื่องจากปีนี้บริษัทจะรับรู้รายได้จากการลงทุนในต่างประเทศเข้ามามากขึ้น
ด้านอัตรากำไรสุทธิในปีนี้น่าจะมากกว่าปี 53 ที่มีอัตรากำไรสุทธิ 6% ซึ่งเป็นไปตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น และการรับรู้รายได้จากธุรกิจในต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งธุรกิจในต่างประเทศมีอัตรากำไรสูงกว่าธุรกิจในประเทศ
นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ SGP กล่าวว่า ปริมาณการใช้ก๊าซในปีนี้ปรับตัวสูงขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการหันมาใช้ก๊าซมากขึ้น โดยในปีนี้บริษัทคาดว่ายอดขายก๊าซในประเทศจะเติบโต 11-12% จากปีก่อน ส่วนยอดขายในต่างประเทศจะเติบโต 40% จากปีก่อน
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายก๊าซ 1.16 ล้านตัน แบ่งเป็นยอดขายในประเทศประมาณ 1.14 ล้านตัน ที่เหลือเป็นยอดขายในต่างประเทศ ทั้งจากบริษัท Super Gas ที่ประเทศเวียดนาม และบริษัท Sin Gas ที่ประเทศสิงคโปร์
บริษัทคาดว่าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 40% ของรายได้รวม จากปีก่อนที่ 3% ขณะที่รายได้ในประเทศจะลดลงเหลือ 60% จากปีก่อนที่ 97% การที่สัดส่วนรายได้และยอดขายจากต่างประเทศในปีนี้เติบโตขึ้นอย่างมาก เนื่องจากจะเริ่มมีการรับรู้รายได้จากการเข้าไปซื้อกิจการในต่างประเทศเข้ามามากขึ้น
ในช่วงเดือนม.ค.ที่ผ่านมา บริษัทเริ่มรับรู้รายได้จากบริษัท BP Zhuhai LPG ซึ่งเป็นคลังเก็บก๊าซ LPG ขนาด 2 แสนตัน ณ เมืองจูไห่ ประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันก็มีการทำสัญญาการซื้อก๊าซกับลูกค้ารายหนึ่งเดือนละ 2 หมื่นตันเข้ามาแล้ว จึงทำให้รายได้และกำไรในไตรมาส 1/54 น่าจะมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน
“รายได้และกำไรในไตรมาส 1/54 น่าจะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะตัว Zhuhai เริ่มมีรายได้เข้ามา ก็เริ่มมีกำไรแล้ว มาจะยังไม่มากก็ตาม แต่คิดว่าในไตรมาส 2/54 น่าจะดีขึ้นมาก ส่วนที่สิงคโปร์ผลประกอบการก็ดีมากๆ แม้ยอดขายน้อยแต่มาร์จิ้นสูง ปัจจุบันเรามีมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับ 2 ประมาณ 25% ส่วนที่เวียดนามยอดขายยังไม่ค่อยมากเท่าไหร่ เรามีมาร์เก็ตแชร์แค่ 3-4%"นางจินตณา กล่าว
และในไตรมาส 2/54 นี้ คาดว่าจะสามารถปิดดีลการซื้อบริษัท เชฟรอน โอเชี่ยนแก๊ส แอนด์ เอ็นเนอร์จี้ (COGEL) ในประเทศจีน ซึ่งเป็นคลังเก็บก๊าซขนาด 1 แสนตัน และเมื่อปิดดีลได้จะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาทันที่
“ตัว Cogel น่าจะจบดีลในช่วงเดือนพ.ค. อย่างช้าก็มิ.ย. นี้ ซึ่งเมื่อดีลจบก็จะรับรู้รายได้เข้ามาเลย ก็ถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้รายได้เติบโตขึ้น"นางจินตณา กล่าว
ขณะที่บริษัทตั้งงบลงทุนปีนี้ไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาท โดยจะใช้ในการซื้อกิจการบริษัท เชฟรอน โอเชี่ยนแก๊ส แอนด์ เอ็นเนอร์จี้ (COGEL) 1,500 ล้านบาท ซึ่งได้มีการทำสัญญากู้เงินจากธนาคารกสิกรไทยและธนาคารมิซูโฮไว้แล้ว และจะใช้ในการเปิดสถานีบริการก๊าซ LPG อีก 10 แห่ง ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่รวมที่ดิน 150 ล้านบาท และขยายคลังก๊าซ LPG และท่าเรือที่ถนนสุขสวัสดิ์ 500 ล้านบาท
ส่วนแผนการเข้าไปซื้อกิจการในต่างประเทศเพิ่มเติมนั้น บริษัทก็กำลังศึกษาอยู่หลายประเทศทั้งฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ซึ่งที่มาเลเซียเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา บริษัทก็ได้เข้าไปทำธุรกิจเกี่ยวกับแอมโมเนีย โดยได้มีการเข้าไปซื้อถังก๊าซแอมโมเนียไว้แล้ว โดยลงทุนไปประมาณ 10 ล้านบาท ถือเป็นรากฐานในการขยายไปลงทุนในธุรกิจก๊าซในอนาคต
สำหรับการที่รัฐบาลมีการกำหนดเพิ่มเพดานปริมาณสำรองก๊าซ LPG ขึ้นเป็น 1% จากปัจจุบันที่ 0.5% ภายในเดือนพ.ย.นี้ บริษัทมองว่าไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากปริมาณปริมาณก๊าซของบริษัทมีเพียงพอ และบริษัทก็มีการขยายคลังสินค้าไว้รองรับอย่างต่อเนื่อง