นางสุนันทา เตียสุวรรณ ประธานการเงินกลุ่มบริษัท บมจ.แพรนด้า จิวเวลรี่ (PRANDA) กล่าวว่า ปี 54 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 8% จากปีก่อนที่ 4,088 ล้านบาท จากความต้องการของตลาดในประเทศยังขยายตัวได้ดี ขณะที่ตลาดต่างประเทศก็ยังเติบโดได้ แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ฟื้นตัวมากนัก อีกทั้งบางประเทศมีภาวะสงครามและเหตุการณ์ต่างๆ ทำให้มีการระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น
อีกทั้ง เมื่อ ม.ค.ที่ผ่านมาบริษัทเริ่มทำการผลิตในโรงงานแห่งใหม่ จ.นครราชสีมา ทำให้กำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นเป็น 9 ล้านชิ้นต่อปี จากโรงงานที่มีอยู่เดิม 8 แห่งใน 5 ประเทศ รองรับความต้องการของตลาดได้ในปีนี้ และได้รับสิทธิประโยชน์ภาษีจาก BOI ในโครงการส่วนขยายที่โรงงานแห่งนี้ด้วย
ขณะที่บริษัทจะพยายามรักษาอัตรากำไรสุทธิในปีนี้ไว้ที่ระดับใกล้เคียงปีที่แล้วที่ 9-10% โดยอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนมีผลกระทบกับบริษัทบ้างในแง่ของการส่งออก แต่บริษัทก็มีการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศด้วย ทำให้ลดความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน และยังมีการทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไว้ด้วย
ส่วนราคาทองคำที่ผันผวนนั้น บริษัทก็ได้ใช้กลยุทธปรับเปลี่ยนวัตถุดิบในการผลิตเครื่องประดับมาเป็นเงิน(silver)มากขึ้น และถึงแม้ว่าราคาทองจะปรับขึ้นไปมาก บริษัทก็สามารถปรับขึ้นราคากับลูกค้าได้
นางสุนันทา กล่าวว่า สัดส่วนยอดขายของบริษัทมาจากการส่งออก 80% และยอดขายในประเทศ 20% ซึ่งในปึ 54 บริษัทตั้งงบลงทุน 230 ล้านบาท เพื่อใช้ขยายตลาดอินเดียและจีน รวมทั้งเพื่อปรับปรุงเครื่องจักรปกติ โดยบริษัทจะมุ่งเน้นขยายจุดจำหน่ายในจีนมากขึ้น โดยจะไปเปิดสำนักงานขายที่เมืองปักกิ่ง อีกทั้งจะขยายตลาดในอินเดีย รัสเซีย และอินโดนีเซีย ส่วนตลาดเดิม ได้แก่ ตลาดสหรัฐและยุโรป เป็นตลาดหลักก็จะพยายามรักษาไว้
"ยอดขาย 2 เดือนแรกก็ถือว่าเป็นไปตามเป้า ซึ่งยอดขายในประเทศเติบโต 20% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่ตลาดต่างประเทศได้ตามเป้าเป็นออร์เดอร์ที่ค้างอยู่จากปลายปีก่อน และช่วงนี้ต่างประเทศจะเป็นช่วงจัดงานเอ็กซิบิชั่น ลูกค้าจะดูรูปแบบการซื้อมากกว่า แต่ยอดขายจะไปโตดีจริงๆ ในไตรมาส 3-4 ซึ่งเป็นช่วงคริสมาสต์"นางสุนันทา กล่าว
ส่วนเหตุภัยพิบัติในญี่ปุ่นและปัญหาในตะวันออกกลางไม่กระทบกับบริษัทมากนัก เพราะสัดส่วนการขายในญี่ปุ่นและตะวันออกกลางน้อยมาก อย่างไรก็ดี กังวลเรื่องออร์เดอร์บ้าง