ARIPเป้าปี 54 รายได้โต 15-20%รับผลดีตลาดไอทีขยายตัว-มีรายได้ธุรกิจทีวี

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 17, 2011 17:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปฐม อินทโรดม กรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไป บมจ.เออาร์ไอพี (ARIP) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 54 เติบโต 15-20% จากปี 53 ที่มีรายได้ 287.08 ล้านบาท เป็นการเติบโตตามอุตสาหกรรมไอทีที่คาดว่าจะขยายตัวราว 12-15% และจะมีรายได้จากธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์เข้ามาเป็นปีแรก

สำหรับแนวโน้มรายได้ไตรมาส 1/54 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 4/53

“ปีที่แล้วเจ้าของเทคโนโลยีอั้นไว้เยอะ แต่ในช่วงไตรมาส 4/53 ก็ปรับตัวขึ้นมาก ปีนี้เศรษฐกิจก็ยังดีต่อ ก็คิดว่าไตรมาส 1/54 น่าจะออกมาดีอย่างแน่นอน ตอนนี้ก็เริ่มมีการปล่อยผลิตภัณฑ์ต่างๆ ออกมามากขึ้น มองว่าตอนนี้ปัจจัยลบยังไม่มี ทุกอย่างยังดูเป็นบวก"นายปฐม กล่าว

นายปฐม กล่าวว่า ในช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา บริษัทได้มีการผลิตรายงานโทรทัศน์ ชื่อรายการ"คุยนอกทำเนียบ"ออกอากาศทางช่อง 11 เวลา 20.30-21.00 น. ซึ่งถือเป็นธุรกิจใหม่ที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทอีกทางหนึ่งในปีนี้ และบริษัทมีแผนผลิตรายการโทรทัศน์เพิ่มอีก 1 รายการ ซึ่งจะเป็นรายการเกี่ยวกับธุรกิจและอุตสาหกรรมไอทีตามที่ถนัด

“ปีนี้เราก็จะมีรายได้จากรายการทีวีเข้ามาเป็นปีแรก ก็จะอยู่ในส่วนของธุรกิจ New media ซึ่งปีนี้ก็จะมีรายได้เข้ามาทั้งจากตัวตลาดออนไลน์ที่โตขึ้น และรายงานทีวีที่เข้ามาเสริม เราก็เปิดไปแล้ว 1 รายการ ภายในปีนี้ก็จะผลิตอีก 1 รายการ ก็อยากเปิดในฟรีทีวี"นายปฐม กล่าว

และในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ราว 20-30 ล้านบาท ใช้ในการผลิตรายการโทรทัศน์ 1 รายการ ประมาณ 10-15 ล้านบาท และใช้ในการพัฒนาธุรกิจออนไลน์อีก 10-15 ล้านบาท

“ธุรกิจออนไลน์เราก็จะพัฒนาคอนเทนต์ที่เดิมอยู่ในสื่อสิ่งพิมพ์ เข้ามาอยู่ในสื่อดิจิตอล เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป"นายปฐม กล่าว

ในปีนี้บริษัทจะมีการจัดงานแสดงสินค้าไอที หรืองานคอมมาร์ต 4 ครั้งในทุกๆไตรมาส และวันนี้เป็นวันแรกของการจัดงานครั้งที่ 1 ซึ่งปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีผู้เข้าชมงานทะลุเป้าที่วางไว้ ส่วนงานซีมาร์ตที่เดิมจะจัดปีละ 1 ครั้ง ในปีนี้ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่ โดยได้มีการขยายขนาดของงานมาเป็นงานคอมมาร์ตแทน

ส่วนเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิที่ถล่มประเทศญี่ปุ่น เชื่อว่าในระยะสั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไอที เนื่องจากปัจจุบันประเทศที่เป็นผู้ผลิตไอทีรายใหญ่ คือ จีน ไต้หวัน และเกาหลีใต้ ส่วนประเทศญี่ปุ่นนั้นส่วนใหญ่สินค้าที่ผลิตจะเป็นระดับไฮเอนด์ ซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดค่อนข้างน้อย แต่ทั้งนี้ในระยะยาวก็ต้องติดตามว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะมีผลกระทบที่บานปลายมากน้อยเพียงใด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ