ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (17 มี.ค.) เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่ม G-7 จะคลี่คลายความวิตกกังวลในตลาดหลังจากเกิดแผ่นดินไหวและวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ในญี่ปุ่น นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีพุ่งขึ้น 143.04 จุด หรือ 2.2% ปิดที่ 6,656.88 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 6,517.18-6,692.83 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสพุ่งขึ้น 89.65 จุด หรือ 2.43% ปิดที่ 3,786.21 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,708.13-3,796.62 จุด
ดัชนี FTSEurofirst 300 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มบลูชิพในตลาดยุโรปปิดบวก 19.48 จุด หรือ 1.83% แตะที่ 1,086.74 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นถ้วนหน้า เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าที่ประชุม G-7 จะใช้มาตรการผ่อนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ในญี่ปุ่น นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ
จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์แล้วของสหรัฐร่วงลง 16,000 ราย สู่ระดับ 385,000 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้น ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ.ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 0.5% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายโดยเฉลี่ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ 2.0%
หุ้นอัลไลอันซ์ เอสอี และหุ้นแอ็กซา เอสเอ ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่ของยุโรป ปิดพุ่งขึ้น 4.2% และ 4.6% ตามลำดับ ส่วนหุ้นกลุ่มบริษัทประกันภัยต่อ เช่นหุ้นมิวนิค รี ปิดพุ่ง 4.1% หุ้นแฮนโนเวอร์ รี ปิดบวก 3.6%
หุ้นเฮริเทจ ออยล์ ซึ่งเป็นบริษัทพลังของยุโรป ปิดพุ่ง 8.2% หลังจากมีรายงานว่าเฮริเทจ ออยล์ ปฏิเสธข้อเสนอการควบรวมกิจการจากบริษัทพลังงานของอาบูดาบี
หุ้นซีเมนส์ เอสจี ปิดบวก 4.4% หลังจากนักวิเคราะห์จากยูนิเครดิต ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ "buy" จากระดับ "hold" เพราะเชื่อว่าซีเมนส์จะเป็นหนึ่งในบริษัทรายใหญ่ที่จะได้ประโยชน์จากโครงการบูรณะฟื้นฟูประเทศหลังจากเกิดแผ่นดินไหวของญี่ปุ่น