ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าพุ่งขึ้นในวันนี้ (18 มี.ค.) โดยดัชนีทะยานขึ้นกว่า 3% ขานรับที่ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่ม G-7 ที่มีมติให้แทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศเพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินเยน และเพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งกำลังได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวและสึนามิ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดเช้าพุ่งขึ้น 158.26 จุด หรือ 1.77% แตะที่ 9,120.93 จุด
ราคาหุ้นพุ่งขึ้นเกือบทุกกลุ่ม โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้นแข็งแกร่งสุด ตามด้วยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และผลิตภัณฑ์น้ำมันและถ่านหิน ส่วนหุ้นกลุ่มประกันเป็นหุ้นเพียงกลุ่มเดียวที่ร่วงลงในช่วงเช้าวันนี้
ตลาดหุ้นโตเกียวดีดตัวขึ้นมาเคลื่อนไหวในแดนบวกหลังจากประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่ม G-7 ในวันนี้ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ดำเนินการแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรา เพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินเยน โดยที่ประชุมเปิดทางให้ญี่ปุ่นดำเนินการดังกล่าวร่วมกับประเทศอื่นๆในกลุ่ม G-7 หลังจากดอลลาร์สหรัฐดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 76.25 เยนเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ในจังหวัดฟูกุชิม่า
ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นมายืนเหนือระดับ 81 เยนทันทีหลังจากที่ประชุม G-7 มีมติแทรกแซงตลาด
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นโตเกียวยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก และจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหานิวเคลียร์ หลังจากกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น (SDF) ได้ใช้เฮลิคอปเตอร์บินขึ้นไปฉีดน้ำใส่เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ซึ่งช่วยให้ระดับการแพร่กระจายของกัมมันตภาพรังสีปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 279.4 ไมโครซีเวิร์ต/ชั่งโมง ในช่วงเช้าวันนี้ เมื่อเทียบกับระดับ 292.2 ไมโครซีเวิร์ต/ชั่วโมงของเมื่อค่ำวานนี้
หุ้นบริษัทโตเกียว อิเล็กทริก พุ่งขึ้น 15.5% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหว 9.0 ริกเตอร์ และเกิดคลื่นสึนามิที่บริเวณฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเมื่อวันศุกร์ที่ 11 มี.ค.