นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า มอบนโยบายให้ บมจ.การบินไทย (THAI) จัดหาเครื่องบินตามแผนยุทธศาสตร์ ซึ่งจะมีการจัดหาเครื่องบินรวม 37 ลำ ด้วยวิธีการเช่าซื้อหลังจากการบินไทยเสนอแผนเช่าดำเนินการ พร้อมให้การบินไทยศึกษาเปรียบเทียบข้อมูลระหว่างการเช่าซื้อและเช่าดำเนินการให้รอบคอบ เนื่องจากเห็นว่าการเช่าซื้อน่าจะเป็นแนวทางที่เหมาะสมกว่า
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การบินไทยเสนอขอจัดหาเครื่องบินจำนวน 37 ลำ โดยวิธีการเช่าดำเนินการทั้งหมด แต่เนื่องจากกระทรวงคมนาคมมีนโยบายให้จัดหาเครื่องบินแบบเช่าซื้อ จึงให้การบินไทยไปศึกษาผลดีผลเสียเพิ่มเติม
ทั้งนี้ จากข้อมูลของการบินไทยพบว่าการจัดหาเครื่องบินแบบเช่าจะใช้วงเงินประมาณ 2.16 แสนล้านบาท ขณะที่การเช่าซื้อจะใช้วงเงินประมาณ 1.4 แสนล้านบาท ซึ่งการเช่าซื้อจะให้ผลตอบแทนสูงกว่า
แต่อย่างไรก็ตาม การบินไทยรายงานว่าการจัดหาเครื่องบินแบบเช่าซื้อจะไม่ได้รับมอบเครื่องบินตามแผนที่กำหนด ซึ่งจะกระทบแผนธุรกิจ ทำให้ต้องจัดหาเครื่องบินแบบเช่าดำเนินการ ซึ่งเรื่องนี้การบินไทยต้องทำรายละเอียดมาชี้แจงให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาต่อไป
นอกจากนั้น ที่ประชุมยังมอบหมายให้การบินไทยไปจัดทำแผนยุทธศาสตร์เพิ่มเติม เนื่องจากเห็นว่ายุทธศาสตร์ที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินนั้น การบินไทยไม่สามารถดำเนินการได้เพียงหน่วยงานเดียว แต่จะต้องร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อให้แผนยุทธศาสตร์รอบด้านเพิ่มขึ้น