ตลาดหุ้นยุโรปิดบวกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 มี.ค.) หลังจากกลุ่มประเทศ G-7 มีมติให้ประเทศสมาชิกเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเพื่อยับยั้งการแข็งค่าของเงินเยน ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่น ภายหลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงและคลื่นสึนามิ
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดบวก 7.52 หรือ 0.11% แตะที่ 6664.40 จุด
ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดบวก 24.01 จุด หรือ 0.63% แตะที่ 3810.22 จุด
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดบวก 0.2% แตะที่ 267.63 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปปิดเดินหน้าขึ้นขานรับข่าวที่ว่า ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่ม G-7 มีมติให้ประเทศสมาชิกดำเนินการแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรา เพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินเยน หลังจากดอลลาร์สหรัฐดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 76.25 เยน ซึ่งส่งผลให้ตลาดผันผวนอย่างหนักและมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการเงินของญี่ปุ่น
หุ้นเนชันแนล กริด ซึ่งเป็นบริษัทสาธารณูปโภครายใหญ่ของยุโรป ปิดพุ่งขึ้น 4.4% หลังจากนักวิเคราะห์ของเครดิตสวิสประกาศเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวขึ่นสู่ระดับ “small overweight" จากระดับ “underweight"
หุ้น BASF SE ซึ่งเป็นบริษัทเคมีภัณฑ์รายใหญ่ของยุโรปปิดบวก 1.7% หลังจากเจพีมอร์แกนปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการของ BASF เพราะเชื่อว่าบริษัทจะได้ประโยชน์จากการพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์
หุ้นเบิร์กลีย์ กรุ๊ป โฮลดิงส์ ซึ่งเป็นบริษัทรับสร้างบ้านรายใหญ่อันดับสองของอังกฤษ ปิดบวก 3.6% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้
หุ้นเซนทริกาซึ่งเป็นผู้บริหารบริษัทบริติช ก๊าซ ปิดบวก 3.2% หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ประกาศให้หุ้นเซนทริกาอยู่ในรายชื่อหุ้นกลุ่ม “conviction buy"
หุ้นบริษัทผลิตรถยนต์ดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นบีเอ็มดับเบิลยู เอจี และหุ้นเดมเลอร์ เอจี ปิดพุ่งขึ้นกว่า 2%