นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. การบินไทย (THAI) กล่าวว่า ขณะนี้ผู้โดยสารที่จองตั๋วในเส้นทางญี่ปุ่นได้มีการยกเลิกการเดินทางเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนหนึ่งได้เปลี่ยนเส้นทางไปยังเกาหลีและจีนมากขึ้น ทำให้บริษัทจะต้องมีการปรับแผนการบินด้วยการลดเทียวบินไปยังญี่ปุ่น และหันมาเพิ่มเส้นทางเกาหลีและจีนแทน
ขณะเดียวกันก็หวังว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่มีการยกเลิกการเดินทางไปญี่ปุ่นจะเดินทางมาเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้นแทน
ส่วนจุดบินไปลงญี่ปุ่นยังเป็นไปตามปกติไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยผลการวัดกัมมันตรังสี เครื่องบินที่บินจากญี่ปุ่นมาไทยไม่พบความผิดปกติ แต่ตามนโยบายรัฐบาลญี่ปุ่นหากกัมมันตรังสีกระจายไปในระยะ 100 กม. เป็นจุดที่การบินไทยไม่สามารถบินไปโตเกียวได้ ก็จะต้องปรับเปลี่ยนไปลงนาโกย่าและโอซาก้าแทน แต่หวังว่าทางรัฐบาลญี่ปุ่นและทางเทปโก้จะจัดการกับปัญหาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้โดยเร็ว
"ยอมรับว่ารายได้จากเส้นทางการบินญี่ปุ่นมีจำนวน 7% ของรายได้รวม หรือคิดเป็น 59 เที่ยวบิน/สัปดาห์ ถือว่าเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้โดยสารและรายได้ค่อนข้างมาก" นายปิยสวัสดิ์ กล่าว
สำหรับปัญหาลิเบีย ที่ส่งผลต่อปัญหาน้ำมันปรับสูงขึ้นในขณะนี้เกิดจากความกังวลว่าปัญหาจะขยายวงกว้างไปตะวันออกกลาง ขณะที่ลิเบียเป็นผู้ผลิตน้ำมันเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน เมื่อเทียบกับการผลิตน้ำมันทั่วโลกที่อยู่ที่ 86 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งหากสถานการณ์ของลิเบียจะยืดเยื้อแต่ไม่ลุกลาม เชื่อว่าราคาน้ำมันคงจะไม่ปรับขึ้นต่อเนื่อง
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นได้สร้างปัญหาในการบริหารในเรื่องของต้นทุนราคาน้ำมัน เนื่องจากบริษัทไม่สามารถปรับราคาตั๋วได้ทัน เนื่องจากราคาน้ำมันยังปรับสูงขึ้นไม่หยุด แต่บริษัทได้มีการป้องกันความเสี่ยงในเรื่องของน้ำมันไว้ถึง 50% น่าจะประกันความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง