(เพิ่มเติม) ERAWAN คาดปี 54 พลิกกำไร-พร้อมจ่ายปันผล,ลงทุน 5 พัน-1 หมื่นลบ.ปี 54-58

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 21, 2011 13:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางกมลวรรณ วิปุลากร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป(ERAWAN) คาดว่าปี 54 ผลประกอบการจะพลิกเป็นกำไร จากที่มีผลขาดทุน 275 ล้านบาทในปี 53 โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ที่ 4 พันล้านบาท เติบโตราว 30-35% ซึ่งบริษัทมีแผนจะปรับขึ้นราคาห้องพักเฉลี่ย 10%

และบริษัทคาดว่ารายได้จะสูงขึ้นแตะ 6 พันล้านบาทในปี 58 ภายใต้แผนการลงทุนในระยะ 5 ปี(54-58)ที่ตั้งงบลงทุนไว้ 5 พันล้านบาท ถึง 1 หมื่นล้านบาท เพื่อสร้างและซื้อกิจการโรงแรมใหม่ ขณะที่มีแผนจะขายโรงแรม 1 แห่งออกไปภายในปีนี้และอีก 1 แห่งในปีหน้า

นางกมลวรรณ กล่าวว่า รายได้ในปีนี้ส่วนหนึ่งจะมาจากแผนขายสินทรัพย์อาคารสำนักงานเพลินจิตเซ็นเตอร์ มูลค่าราว 1.4 พันล้านบาทให้กับกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะบันทึกกำไรทั้งหมดภายในปีนี้ ประกอบกับปีนี้ประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะกลับมาสูงขึ้น คาดว่าอัตราการเข้าพักจะเพิ่มขึ้นเป็น 70-75% จาก 58% ในปี 53 รวมทั้งบริษัทมีแผนจะปรับราคาค่าห้องพักเฉลี่ย 10%

ทั้งนี้ หากบริษัทมีกำไรที่ดีในปีนี้ก็น่าจะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ตามนโยบายที่ 35% ของกำไรสุทธิ

"เราเริ่มขาดทุนมาตั้งแต่ 1-2 ปีที่แล้ว และต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ หลัก ๆ เพราะได้รับผลกระทบจากการชุมนุม ทำให้โรงแรมที่เรามีหลายแห่งต้องปิด แตปีนี้สถานการณ์เท่าที่ดูก็ดีขึ้น เพราะรัฐบาลก็มีความขัดเจนว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่กลางปี"นางกมลวรรณ กล่าว

สำหรับแผนการลงทุนใน 5 ปีข้างหน้าบริษัทจะใช้งบลงทุนประมาณ 5,000-10,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการพัฒนาโรงแรมใหม่ โดยตั้งเป้าจะมีโรงแรมภายใต้การบริหารเพิ่มเป็น 20 แห่งในปี 58 หรือคิดเป็นจำนวนห้องพัก 5 พันห้อง จากปัจจุบันที่มีอยู่ 13 แห่ง หรือคิดเป็น 3,347 ห้อง ขณะที่ปีนี้บริษัทจะมีการขายโรงแรม 1 แห่ง และในปี 55 อีก 1 แห่ง ซึ่งเราคาดหวัง IRR ไม่ต่ำกว่า 20%

ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุน 700 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโรงแรมภายใต้ ชื่อ Ibis หัวหิน มูลค่า 300 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการไตรมาส 1/55 รวมทั้งใช้ลงทุนส่วนหนึ่งในโรงแรม Mercure Ibis สยาม มูลค่าโครงการ 800 ล้นบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือน ธ.ค.55

นอกจากนั้น จะมีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมที่พัทยา ซึ่งถือเป็นโครงการที่บริษัทไม่เคยมีมาก่อน อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดโครงการ รูปแบบ งบลงทุน คาดว่าจะเปิดจองได้กลางปี 54 ทยอยรับรู้รายได้ปี 55-56

นางกมลวรรณ กล่าวว่า รายได้ของบริษัทส่วนใหญ่กว่า 90% มาจากธุรกิจโรงแรม และอีก 10% เป็นพื้นที่ให้เช่า ใน 5 ปีข้างหน้าจะมีการปรับปรุงคุณภาพเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในระยะยาว และจัดสรรรเงินลงทุนที่มีอยู่เพื่อให้บริการมีการเติบโตที่ดี และตั้งเป้าเป็นอันดับ 1 ของเมืองไทยทั้งในแง่จำนวนจำนวนห้องพักและจำนวนโรงแรม มองว่าตลาดในประเทศยังเติบโตได้อีก โดยเฉพาะตลาดระดับกลางถึงล่าง สอดคล้องกับนโยบายของบริษัทที่มีการเพิ่มจำนวนโรงแรมเพื่อรองรับกลุ่มดังกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ