นางสุทธิดา สุขะนินทร์ ผู้จัดการอาวุโสแผนกนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ(BECL)คาดว่า บริษัทจะออกหุ้นกู้ขั้นต่ำ 2 พันล้านบาทในช่วงไตรมาส 3/54 เพื่อทดแทนหุ้นกู้ชุดเดิมที่จะครบกำหนดในเดือน พ.ย.นี้ จำนวน 2.9 พันล้านบาท ดอกเบี้ยหุ้นกุ้ 5.2%
"ในการออกหุ้นกู้ บริษัทจะมีการเปรียบเทียบกับการกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ด้วย เพื่อพิจารณาว่าต้นทุนทางการเงินอย่างไหนจะถูกกว่ากัน"นางสุทธิดา กล่าว
ขณะที่บริษัทคาดว่าการปรับเพิ่มส่วนแบ่งให้รัฐที่จะมีผลตั้งแต่เดือน มี.ค.นี้จะกระทบกับกำไรของบริษัทในปีนี้ประมาณ 500 ล้านบาท แต่บริษัทมีรายได้จากการขายที่ดินที่จะบันทึกเข้ามาราว 100 ล้านบาท จึงช่วยลดผลกระทบลงเหลือ 400 ล้านบาท
นางสุทธิดา กล่าวว่า ผลกระทบจากการส่วนแบ่งรายได้ให้กับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.)เพิ่มเป็น 60% จาก 50% แต่บริษัทได้รับ 40% จากเดิมได้ 50% ส่งผลกระทบต่อรายได้บริษัทบนพื้นฐานปริมาณจราจรปีก่อนที่ 9.75 แสนคัน/วัน กระทบต่อรายได้ 800 ล้านบาทในปีนี้ แต่จากการที่บริษัทจ่ายภาษีลดลงในปีนี้ ทำให้ผลกระทบรายได้จริง 600 ล้านบาท
ในปี 54 คาดว่าปริมาณจราจรจะเพิ่มขึ้น 2.5-2.8% จากปีก่อน และแม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับสูงขึ้น มองว่าไม่น่าจะกระทบมากนัก เพราะผู้บริโภคสามารถเลือกใช้พลังงานอื่นได้มากขึ้น และเชื่อว่าผลกระทบจะน้อยกว่าที่ผ่านมา อีกทั้งมองว่าอาจจะมีการใช้ทางด่วนมากขึ้น เพราะจะได้ประหยัดเวลาการเดินทาง
ในเดือน ม.ค.54 มีปริมาณจราจร 9.9 แสนคัน/วัน และเดือน ก.พ.54 มีปริมาณจราจรเพิ่มเป็น 1.03 ล้านคัน/วัน ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี จึงมองว่าปริมาณการใช้น่าจะดีขึ้น เนื่องจากการที่บริษัทได้เปิดเส้นทางด่วนใหม่ และมีการใช้เส้นทางเดิมมากขึ้น ทั้งนี้ 2 เดือนแรกที่ผ่านมามีปริมาณจราจรเฉลี่ย 1.01 ล้านคัน/วัน