ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกราคาน้ำมัน ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 17.90 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 23, 2011 06:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบทำให้นักลงทุนกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทเอกชน โดยเฉพาะธุรกิจสายการบิน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงในลิเบียและวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ของญี่ปุ่น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 17.90 จุด หรือ 0.15% แตะที่ 12,018.63 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 4.61 จุด หรือ 0.36% แตะที่ 1,293.77 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 8.22 จุดหรือ 0.31% ปิดที่ 2,683.87 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 3.7 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 4 ต่อ 3

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX พุ่งขึ้นเหนือระดับ 104 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการบริษัทเอกชน โดยเฉพาะธุรกิจสายการบิน นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันยังทำให้เกิดความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจโลกด้วย

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากเหตุการณ์รุนแรงในลิเบีย และวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ในญี่ปุ่น โดยสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า พบสารกัมมันตรังสีซึ่งสูงกว่าระดับปกติถึง 1,600 เท่าในเมืองนามิเอะ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่า ไดอิจิ ประมาณ 20 กิโลเมตร

เดลต้า แอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินรายใหญ่อันดับสองของสหรัฐ ได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการปี 2554 ลง 250 ดอลลาร์ สู่ระดับ 400 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ในญี่ปุ่น ขณะที่บริษัททิฟฟานี ได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาสแรกปีนี้ หลังจากบริษัทต้องปิดห้างค้าปลีกบางแห่งในญี่ปุ่น อันเนื่องมาจากผลกระทบของแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิ

หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเรือสำราญรายใหญ่ของโลก ปิดร่วง 4.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกที่ต่ำเกินคาด อันเนื่องมาจากราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น

หุ้นบริสทอล-เมเยอร์ส สวิบบ์ ปิดบวก 1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลการศึกษายารักษามะเร็งผิวหนัง ขณะที่หุ้นวอลกรีนปิดร่วง 6.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการเพิ่มขึ้น

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ. วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ.

ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 4 ปี 2553 ครั้งที่ 3


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ