ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: วิตกหนี้ยุโรป ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วง

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ของหลายประเทศในยุโรป และกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีร่วงลง 35.15 จุด หรือ 0.52% ปิดที่ 6,780.97 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 6,765.06-6,826.03 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสขยับลง 11.74 จุด หรือ 0.3% ปิดที่ 3,892.71 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,876.71-3,926.66 จุด

ดัชนี FTSEurofirst 300 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มบลูชิพในตลาดยุโรปปรับตัวลง 0.67 จุด หรือ 0.06% ปิดที่ 1,107.22 จุด ขณะที่ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.2% ปิดที่ 271.8 จุด

ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในหลายประเทศของยุโรป รวมถึงโปรตุเกส โดยมีรายงานว่าพรรคฝ่ายค้านของโปรตุเกสยกเลิกการสนับสนุนมาตรการรัดเข็มขัด เพราะเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคประชาชน

ทั้งนี้ หุ้นธนาคารของโปรตุเกสปิดร่วงถ้วนหน้า รวมถึงหุ้นบังโค เอสปิริโต ซานโต ปิดร่วงกว่า 2.5% หุ้นบังโค คอมเมอร์เชียล โปรตุเกส เอสเอ ปิดลบ 2.5% และหุ้นบังโค บีพีไอ เอสเอ ปิดร่วง 2.4%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรปอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนเม.ย.นี้ หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ในยูโรโซนพุ่งขึ้น 2.4% ในเดือนก.พ. ซึ่งสูงกว่าระดับเป้าหมายของอีซีบีที่ 2%

หุ้นเมโทร ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกของเยอรมนี ปิดร่วง 4.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า วิกฤตการณ์ในตะวันออกกลางและเหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่น อาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัท

หุ้นสวอช กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตนาฬิการายใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ ปิดพุ่ง 2.2% หลังจากสำนักงานศุลกากรสวิตเซอร์แลนด์ระบุว่า เผยยอดส่งออกนาฬิกาของประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.8% ในเดือนก.พ.