โบรกเกอร์ แนะ"ซื้อ" หุ้นบมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์(LH)จากการปรับขึ้นของประมาณการกำไรสุทธิปี 54 ที่มีกำไรเพิ่มเติมจากการขายหุ้น บมจ.บางกอก ฮอสปิทอล(KH)ประมาณ 1.8-2.0 พันล้านบาท ซึ่งบางรายคาดว่าจะรับรู้กำไรในไตรมาสแรกปีนี้ และดันกำไรสุทธิทั้งปีเพิ่มเป็น 5.8-6 พันล้านบาท จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3.9 พันล้านบาท ส่งผลดีต่อการจ่ายเงินปันผลในงวดปี 54
นอกจากนี้ LH เปิดตัวโครงการใหม่ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ทำให้รายได้เติบโต และธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์เพื่อรายย่อยเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ในครึ่งแรกของปีนี้ ทำให้มูลค่าหุ้นของ LH ปรับตัวดีขึ้น
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท) บล.ธนชาต ซื้อ 8.00 บล.กสิกรไทย ซื้อ 7.50 บล.บัวหลวง ซื้อเก็งกำไร 7.20 บล.เกียรตินาคิน ซื้อเก็งกำไร 7.20 บล.ฟิลลิป ซื้อ 6.70 บล. ดีบีเอสฯ ซื้อ 6.50
นางสาววิชชุดา ปลั่งมณี รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า LH จะรับรู้กำไรจากการขายหุ้น KH ในไตรมาส 1/54 ที่คาดว่าจะมีกำไรประมาณ 2 พันล้านบาท ก็จะส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาส 1/54 ดีขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ LH จะไม่มีการรับรู้กำไรจากการลงทุน KH ที่ผ่านมาได้ปีละ 170 ล้านบาท(จากที่ถือ 25%)
"จะซื้อเก็งกำไร หรือ ซื้อสะสมก็ได้ เพราะราคานี้ก็ยังซื้อได้"นางสาววิชชุดา กล่าว
ขณะที่คาดกำไรจากรายการปกติในปี 54 จะเติบโตไม่มาก อยู่ที่ 3,986 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,971 ล้านบาท เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้ลดลงกว่าปีก่อน แม้ว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นและความต้องการบ้าน ซึ่งในปีนี้บริษัทเปิดตัวโครงการใหม่ต่อเนื่องและรุกเข้าตลาดทุกเซ็กเม้นท์
นอกจากนี้ คาดว่าบริษัทจะมีการประกาศจ่ายเงินปันผลในช่วงครึ่งหลังปี 53 ในอัตราหุ้นละ 0.18 บาท หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนประมาณ 3%
นักวิเคราะห์จาก บล.กสิกรไทย กล่าวว่า แนวโน้มกำไรสุทธิปี 54 ของ LH จะเติบโตขึ้นอย่างมาก จากการเปิดโครงการใหม่โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวซึ่งเป็นธุรกิจหลักค่อนข้างมากในปลายปีที่ผ่านมา และปี 54 ก็มีการเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง หลังจากในช่วง 3-4 ปีบริษัทมีการเปิดตัวโครงการใหม่ลดลง และธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ กลับมาดีขึ้นในปีนี้หลังจากปีก่อนที่มีการชุมนุมทางการเมืองทำให้ธุรกิจดังกล่าวซบเซา
ประกอบกับ บริษัทขายหุ้น KH จำนวน 415.6 ล้านหุ้นให้กับ บมจ.รพ.บำรุงราษฎร์(BH)ทำให้มีกำไรจากการขายหุ้นดังกล่าวประมาณ 1.8 พันล้านบาท จึงได้มีการปรับประมาณการกำไรสุทธิของ LH ในปี 54 เป็น 5.8 พันล้านบาทจากเดิมคาดไว้ 4 พันล้านบาท เติบโตจากปีก่อนเกือบ 50%
"ธุรกิจบ้านซึ่งเป็นธุรกิจหลักเติบโต และปีนี้เป็นปีที่เก็บเกี่ยวการลงทุน อีกทั้งในครึ่งปีแรกนี้ ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์เพื่อรายย่อย ก็จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ช่วยทำให้ valuation เพิ่มขึ้น" นักวิเคราะห์กล่าว
บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 54 เพิ่ม 42% และปรับลดกำไรก่อนรายการพิเศษลง 5% โดยเป็นผลจากการรวมกำไรจากการขาย KH 2 พันล้านบาท และการปรับลดส่วนแบ่งกำไรหลังจาก KH เปลี่ยนสถานะเป็นเงินลงทุนทั่วไปจากบริษัทร่วม
ในเวลาเดียวกัน ทางฝ่ายคงความคาดหมายกำไรปกติเติบโต 10% โดยรายได้เติบโต 18% ที่เติบโตตามโครงการแนวราบ 15% และโครงการคอนโดฯ ซึ่งส่วนใหญ่มียอดจองเฉลี่ย 60-70% Margin ทรงตัว แต่รายจ่ายภาษีเพิ่ม ทำให้กำไรปกติเติบโตแค่ 10%
"การขาย KH นำไปสู่ Dividend Yield ที่สูงขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยเร่งใหม่ๆต่อหุ้น LH ขณะที่ P/E ล่าสุดยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย คงคำแนะนำ “ซื้อ" ราคาพื้นฐาน6.70 บาท(16 เท่า P/E-2554)"บทวิเคราะห์ระบุ