ทริสเรทติ้งมอง บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) และ บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล(KH) มีพัฒนาการเชิงบวกภายหลังจากที่ LH ประกาศขายหุ้นที่ถืออยู่ใน KH ให้แก่ บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์(BH)
อย่างไรก็ตาม โครงสร้างทางการเงินที่ปรับตัวดีขึ้นของ LH ยังคงสอดคล้องกับอันดับเครดิตในปัจจุบันหากพิจารณาถึงสถานะทางการเงินที่อ่อนแอลงและความท้าทายของอุตสาหกรรม ในขณะเดียวกัน อันดับเครดิตของ KH ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงเนื่องจากคาดว่าการสร้างมูลค่าเพิ่มจากการร่วมมือกับผู้ถือหุ้นใหม่ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด รายงานภายหลังจากที่ LH ประกาศขายหุ้นที่ถืออยู่ในสัดส่วน 24.99% ของหุ้นทั้งหมดใน KH เป็นจำนวนเงิน 3.5 พันล้านบาทให้แก่ BH เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2554 โดยการซื้อขายดังกล่าวส่งผลให้บริษัทโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ในบริษัทบางกอก เชน ฮอสปิทอล และกลุ่มตระกูลหาญพาณิชย์ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เช่นเดิมในสัดส่วนประมาณ 47% ของหุ้นทั้งหมด
ทริสเรทติ้งมองว่าทั้ง LH และ KH ได้รับประโยชน์จากการซื้อขายดังกล่าว โดยที่ LH จะสามารถนำเงินสดที่ได้รับมาลดภาระหนี้ได้บางส่วน ทั้งนี้ เนื่องจากตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2553 เป็นต้นมา LH มีภาระหนี้เพิ่มขึ้นสำหรับใช้ลงทุนในโครงการ Terminal 21 ซึ่งเป็นโครงการศูนย์การค้าและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ รวมทั้งใช้เป็นเงินลงทุนใน บริษัท แอล เฮช ไฟแนนเชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และลงทุนสำหรับที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ ๆ แม้ว่าบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์จะมีความยืดหยุ่นทางการเงินมากขึ้นอันจะช่วยให้บริษัทผ่านพ้นอุปสรรคในช่วงวงจรขาลงของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ แต่ภาระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงปี 2553 ก็เป็นประเด็นบั่นทอนปัจจัยสนับสนุนดังกล่าว
ส่วนสำหรับบริษัทบางกอก เชน ฮอสปิทอลนั้น ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะได้รับประโยชน์จากโอกาสในการสร้างความร่วมมือกับบริษัทโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์และช่วยประหยัดต้นทุนบางส่วน นอกจากนี้ ชื่อเสียงและความเชี่ยวชาญของบริษัทโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ก็อาจมีส่วนช่วยบริษัทบางกอก เชน ฮอสปิทอลในการเจาะตลาดระดับกลางและระดับบนด้วย
บริษัทบางกอก เชน ฮอสปิทอลวางแผนจะเปิด The World Medical Center ในช่วงต้นปี 2555 โรงพยาบาลแห่งใหม่นี้จะเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกของ บริษัทที่เน้นให้บริการแก่กลุ่มคนไข้เงินสด
อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการสร้างมูลค่าเพิ่มดังกล่าวน่าจะใช้เวลาพอสมควร ดังนั้น อันดับเครดิตของบริษัทจึงยังคงสอดคล้องกับสถานะทางธุรกิจและการเงินของบริษัทในระยะปานกลาง
ปัจจุบัน LH ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันจากทริสเรทติ้งที่ระดับ “A" ด้วยแนวโน้ม “Stable" หรือ “คงที่" ส่วน KH ได้รับอันดับเครดิตองค์กรในระดับ “A-" ด้วยแนวโน้ม “Stable" หรือ “คงที่