นายจรัญ วิวัฒน์เจษฏาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู.ยูทิลิตี้ ผู้ให้บริการออกแบบ จัดหา รับเหมาติดตั้ง ทดสอบ และให้คำปรึกษาในการวางระบบสื่อสารโทรคมนาคมแบบครบวงจร รวมถึงการให้บริการซ่อมบำรุง และฝึกอบรม เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทฯคงต้องเลื่อนการเสนอขายหุ้น IPO ออกไปเป็นช่วงหลังการเลือกตั้งครั้งใหม่ไปแล้ว จากเดิมที่คาดว่าจะเข้าตลาดฯได้ในไตรมาส 2/54 เนื่องจากบริษัทฯต้องการรอดูสถานการณ์การเลือกตั้งก่อน แม้ว่ามีความพร้อมที่จะเข้าเทรดในช่วงไตรมาส 2/54 ก็ตาม
"งานส่วนใหญ่ของบริษัทฯมีความเกี่ยวข้องกับภาครัฐฯ ดังนั้น บริษัทฯดูแล้วเห็นว่าควรจะเสนอขายหุ้น IPO หลังการเลือกตั้งไปแล้ว แล้วค่อยมาดูกันอีกทีว่าจะขายได้เมื่อไร แต่ทั้งนี้บริษัทฯ อยากจะรอดูเหตุการณ์ในช่วงการเลือกตั้งครั้งใหม่นี้ก่อน เพราะเมื่อมีการยุบสภาเกิดขึ้น ก็อาจจะมีหลายเรื่องที่จะต้องมีการชะลอออกไป อย่างเรื่อง 3จี ก็ยังต้องใช้เวลาพอควร ส่วนตัวโครงข่าย Next Generation Network (NGN) ซึ่งมีมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท ตรงนี้กว่าจะออกได้ก็คงจะต้องเป็นช่วงหลังไตรมาส 3 หรือ 4 ไปแล้ว"นายจรัญ กล่าว
นายจรัญ กล่าวต่อว่า ทางบริษัทฯยังไม่รีบร้อนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากบริษัทฯเวลานี้มีโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่งมาก โดยปลายปีที่แล้วบริษัทฯมีเงินสดอยู่มาก เหลือพอ ๆ กับทุนจดทะเบียนช่วงก่อนเพิ่มทุนที่มีประมาณ 159 ล้านบาท และบริษัทฯสามารถขยายงานได้โดยไม่มีหนี้สินเลย
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า ปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ารายได้เติบโตประมาณ 15% โดยผลประกอบการของบริษัทฯในงวดไตรมาส 1/54 คาดว่ายังทรงตัว แต่ผลประกอบการงวดไตรมาส 2/54 จะออกมาดีมาก จากงานในมือ(Backlog)ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก จากปัจจุบันที่มี Backlog อยู่กว่า 200 ล้านบาท
เนื่องจากขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการเข้าประมูลงาน ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 600-700 ล้านบาท หากบริษัทฯสามารถประมูลงานได้หมดก็จะทำให้ Backlog ของบริษัทฯเพิ่มขึ้นเป็น 700-800 ล้านบาทในไตรมาส 2/54 และทั้งปี 54 คาดว่าจะเข้าประมูลงานประมาณ 1,000 ล้านบาท
"เวลานี้ทางบริษัทฯก็ได้ปรับกลยุทธ์ด้วยการหันไปจับลูกค้ากระจายออกไปมากขึ้น อย่างไปจับลูกค้าพวกกลุ่มทหาร, ไฟฟ้า, ประปา ซึ่งตรงนี้ก็ได้เริ่มขยับขยายมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่โดยหลักก็ยังคงเป็นลูกค้าจากภาครัฐฯเหมือนเดิม"ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว
อนึ่ง บมจ.เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู.ยูทิลิตี้ จะเสนอขายหุ้น IPO 53 ล้านหุ้น และมีความประสงค์จะนำหุ้นสามัญทั้งหมดเข้าเป็นหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai)