นายสมชาย ชุณหรัศมิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่สายธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค บมจ.พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง(PM) คาดว่า ยอดส่งออกปลาทูน่ากระป๋องของบริษัทไปยังประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นตลาดหลักน่าจะมีปริมาณเพิ่มขึ้น หลังจากประเทศญี่ปุ่นเกิดภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิ
"ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นที่ญี่ปุ่นคงจะส่งผลทำให้ส่งออกเราเพิ่มได้มากขึ้น เพราะที่โน่นอาหารเป็นพื้นฐานที่ต้องบริโภค และให้ความสำคัญ ความต้องการก็มีอยู่เยอะ น่าจะทำให้ส่งออกในปริมาณที่มากขึ้น"นายสมชาย กล่าว
ปัจจุบัน บริษัทส่งออกสินคาปลาทูน่ากระป๋องไปยังตลาดญี่ปุนถึง 80%
ขณะที่บริษัทมีแผนจะปรับราคาขายเพิ่มขึ้นในช่วงกลางปีนี้ โดยจะเจรจากับลูกค้าที่บริษัทได้ส่งออกสินค้าไปจำหน่าย และเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะปัจจุบันต้นทุนวัตถุดิบปรับเพิ่มขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันพืช กระป๋อง และปลาทูน่า ประกอบกับ ความต้องการปลาทูน่าในญี่ปุ่นยังเพิ่มสูงขึ้นหลังจากปัญหาภัยพิบัติ ซึ่งสัญญาณการปรับราคาของปลาทูน่ามีมาตั้งแต่กลางปี 53 แล้ว ที่ราคาอยู่ที่ 1.4-1.5 พันเหรียญสหรัฐ/ตัน มาถึง 2 พันเหรียญสหรัฐ/ตัน
นายสมชาย กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 6-7% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2.93 พันล้านบาท ตามยอดขายที่ปรับเพิ่มสูงชึ้น โดยเฉพาะสินค้า"ทาโร่"และการออกสินค้าใหม่ ๆ ขณะที่กำไรสุทธิในปีนี้ก็จะดีกว่าปีก่อนที่มีกำไร 216 ล้านบาท เป็นผลจากการควบคุมต้นทุนที่ดีขึ้น และจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันในปีนี้จะพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ให้ต่ำกว่าปีก่อนที่ 26.8% โดยการลดต้นทุนการขนส่งสินค้า ด้วยการหาสินค้าที่จัดจำหน่ายมากขึ้นเพื่อให้ต้นทุนต่อหน่วยลดง และมีแผนจะเข้าไปถือหุ้นในแบรนด์สินค้าใหม่ ๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดต้นทุนแล้วยังจะช่วยเพิ่มยอดขายได้ทันที
สำหรับหุ้นในโครงการซื้อคืนประมาณ 50 ล้านหุ้น วงเงิน 130 ล้านบาทนั้น คาดว่าภายในต้นเดือน เม.ย.นี้จะมีความชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร จะขายออกหรือไม่