นางปัทมา วงษ์ถ้วยทอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โซลาร์ตรอน (SOLAR) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทจะขายหุ้นกู้แปลงสภาพให้กับพันธมิตรต่างชาติในเอเชียรายเดียวทั้งจำนวน มูลค่าไม่เกิน 20 ล้านเหรียญสิงคโปร์ หรือประมาณ 480 ล้านบาท เพื่อระดมทุนไปรองรับการขยายงานติดตั้งระบบและแผงโซล่าร์ที่บริษัทคาดว่าจะได้รับงานทั้งในประเทศและต่างประเทศแถบเอเชีย ประมาณ 7-8 โครงการ ซึ่งบางส่วนได้เจรจาเสร็จสิ้นแล้ว
"การออกหุ้นกู้แปลงสภาพ ทำให้เรามีความยืดหยุ่นกว่า เมื่อเราต้องการใช้เงิน โดยหุ้นไม่ dilute ทันที และเรายังได้ดอกเบี้ยต่ำ 2% ถ้าเทียบกับ MLR ถือว่าเป็น option ที่ดีที่สุดของบริษัท เพราะเราขยายงานมากต้องใช้เงินทุนจำนวนสูง" นางปัทมา กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทจะนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 29 เม.ย.นี้เพื่อพิจารณาอนุมัติจากนั้นจะเสนอไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ภายใน 5 วัน จากนั้นจะเสนอขายได้ ทั้งนี้ หุ้นกู้แปลงสภาพมีอายุ 3 ปี โดยราคาใช้สิทธิจะใช้ราคาตลาด
นางปัทมา เชื่อมั่นว่า พันธมิตรต่างชาติที่เข้าซื้อหุ้นกู้ดังกล่าวจะใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญของบริษัททั้งหมด ซึ่งจะทำให้มีสัดส่วนการถือหุ้น 33% และเชื่อว่าพันธมิตรต่างชาติรายนี้จะช่วยทำให้ตลาดมั่นใจ และทำให้การทำตลาดในต่างประเทศของบริษัทมีความมั่นคงมากขึ้น รวมทั้งทำให้ลูกค้าในต่างประเทศมั่นใจบริษัทมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ เชื่อว่าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานทางเลือกที่หลายฝ่ายสนใจ ยิ่งมีปัญหาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในญี่ปุ่นที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวยิ่งทำให้พลังงานแสงอาทิตย์ได้รับความสนใจยิ่งขึ้น เพราะอนาคตพลังงานจากก๊าซและน้ำมันย่อมจะหมดไป ขณะที่พลังงานนิวเคลียร์ แม้จะราคาถูกแต่ยังไม่มั่นใจความปลอดภัย โดยเฉพาะในไทยมีศักยภาพทำโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ได้ดี
นางปัทมา คาดว่า รายได้ของบริษัทปี 54 จะเติบโตแบบก้าวกระโดดเป็นพันล้านบาทจากปีก่อนที่มี 223 ล้านบาท และมั่นใจว่าบริษัทจะพลิกฟื้นมีกำไรได้จากปีก่อนขาดทุน 40.57 ล้านบาท โดยไตรมาส 4/53 เริ่มพลิกมีกำไรเป็นครั้งแรก เนื่องจากบริษัทมีงานติดตั้งมากขึ้น
ในไตรมาส 1/54 คาดว่ารายได้กำไรจะดีกว่าในไตรมาส 4/53 ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีการบริหารระบบและติดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์ให้กีบ บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) , บมจ.ทีโอที ,กระทรวงพลังงาน