นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) หรือ KEST กล่าวว่า ในปีนี้มองว่าแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แม้จะมากไม่เท่าปีก่อน เนื่องจากภาพรวมตลาดหุ้นในเอเชียน่าจะยังดีอยู่ ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศยังมีปัญหา เช่น ยุโรปมีปัญหาเรื่องภาวะหนี้ ส่วนสหรัฐการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่เต็มที่ โดยยอดผู้ว่างงานเริ่มปรับลดลงเหลือ 8.9% ส่วนจีนเศรษฐกิจเติบโตค่อนข้างมาก แต่เริ่มมีปัญหาเรื่องราคาสินค้าและค่าแรงที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งมีความกังวลเกี่ยวกับภาคอสังหาริมทรัพย์ ทำให้กังวลเงินเฟ้อตามมาและการปรับขึ้นของดอกเบี้ยในอนาคต ส่วนญี่ปุ่นก็ประสบกับภัยพิบัติสึนามิ
"ภาพตลาดยังมีความผันผวน อาจจะยังมีความมั่นคงไม่มาก แต่เชื่อว่าเป้าหมายดัชนีที่ 1,234 จุด ยังมีโอกาสเป็นไปได้ในปีนี้ แต่ไม่ได้เป็นการขึ้นแบบเส้นตรง ช่วงไหนขึ้นมาเยอะก็ควรจะขายออกไปบ้าง แต่เวลาซื้อก็อย่าซื้อเต็มที่ 100% ขายก็ไม่ต้องขาย 100%" นายมนตรี กล่าว
ประกอบกับ ในปีนี้ประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งจากสถิติก่อนเลือกตั้ง 1 เดือนผลตอบแทนการลงทุนในตลาดหุ้นจะเพิ่ม 5-8% ถือเป็นอีกปัจจัยที่เป็นผลบวกต่อการเข้ามาเก็บกำไรในตลาดหุ้นในปีนี้
สำหรับหุ้นที่แนะนำ ได้แก่ หุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชยได้รับผลดีจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น โดยมอง SCB เป็นหุ้น Top Pick และกลุ่มวัสดุก่อสร้างจากการที่มีงานจากโครงการภาครัฐและเอกชน, ธุรกิจท่องเที่ยว จากปีก่อนได้รับผลกระทบจากเหตุการชุมนุมทางการเมือง แต่ปัจจุบันราคาหุ้นยังถูกอยู่ และปีนี้ประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะกลับมาเพิ่มขึ้น, กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ได้รับประโยชน์จากการย้ายฐานเข้ามาลงทุนในญี่ปุ่น มอง AMATA เป็นหุ้น Top Pick ของกลุ่ม
ส่วนผลการดำเนินงานของ KEST ในปีนี้ จะรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้ที่ 12-13% ใกล้เคียงปีก่อน โดยจะเน้นวิจัยและเทคโนโลยีต่างๆ และในส่วนการขยายฐานลูกค้าใหม่ปีนี้ ตั้งเป้าไว้ที่ 5-7 พันบัญชี