โบรกฯ มองเลือกตั้งหนุนตลาดหุ้นไทย พลังงาน-อาหารเด่น,แนะเพิ่มน้ำหนักหุ้นตปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 25, 2011 14:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บล.เอเชียพลัส (ASP) กล่าวในงานมหกรรมวิเคราะห์หลักทรัพย์และการลงทุน"เจาะเศรษฐกิจ...ทิศทางการลงทุน&กระแสเงินต่างชาติ"ว่า การเลือกตั้งใหม่ในปีนี้จะส่งผลดีต่อการลงทุนในตลาดหุ้น และแม้ว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจะมีปัญหาด้านการเมือง แต่ในส่วนของภาคเอกชน โดยเฉพาะบริษัทที่เป็นผู้นำในแต่ละธุรกิจยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงถึงการพึ่งพาความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐมีน้อยลง

แต่ในปีนี้แนะนำให้เพิ่มการลงทุนในตลาดต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากยังมีอีกหลายตลาดที่มีราคาหุ้นถูกกว่าประเทศไทย โดยในส่วนของพอร์ตลงทุนแนะนำให้น้ำหนักลงทุนหุ้นต่างประเทศ 40% ในประเทศ 40% ส่วนที่เหลือลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ โดยหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจในปีนี้ ควรจะเลือกหุ้นที่สามารถป้องกันการด้อยค่าของเงิน แนะนำ กลุ่มพลังงาน และอาหาร

นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า การลงทุนในหุ้นปีนี้ยังน่าสนใจ แต่แนวโน้มเงินลงทุนจะไหลกลับไปที่ประเทศพัฒนาแล้วมากขึ้น ส่วนในเอเชียแนวโน้มยังเติบโตได้ แม้ว่าจะลดลงจากปีก่อน เนื่องจากถูกกดดันจากปัญหาเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางทำให้ราคาน้ำมันปีนี้ยังทรงตัวระดับสูง โดยคาดว่าราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ 90-105 เหรียญ/บาร์เรล แต่ทั้งนี้กังวลในเรื่องของเงินเฟ้อจากราคาสินค้าอาหารมากกว่า โดยเฉพาะกรณีที่เกิดผลกระทบจากปัญหาภัยธรรมชาติที่ควบคุมไม่ได้

ตลาดหุ้นไทยในปีนี้มองว่าเงินลงทุนจากต่างชาติยังคงไหลเข้ามา เงินบาทยังคงแข็งค่าอยู่ โดยในช่วงปลายปีนี้คาดว่าเงินบาทจะเฉลี่ยอยู่ที่ 29 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นไปตามดุลบัญชีเดินสะพัดที่ยังเป็นบวก และการบริโภคภายในยังเติบโต โดยในส่วนของพอร์ตการลงทุนแนะนำให้ลงทุนในตลาดหุ้นไทย 30% ตลาดหุ้นต่างประเทศ 15% อสังหาริมทรัพย์ 15% พันธบัตรและเงินกู้ 15% เงินฝาก 15% ทองคำ 5% และสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ อีก 5% คาดว่าการลงทุนในรูปแบบบนี้น่าจะมีผลตอบแทนเฉลี่ยที 10.48%

หุ้นกลุ่มที่น่าสนใจลงทุนในปีนี้ คือ กลุ่มอาหาร ที่ได้รับประโยชน์จากราคาสินค้าเกษตรปรับตัวสูงขึ้น ความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากญี่ปุ่นหลังจากเกิดภัยพิบัติ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มพลังงาน และกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ที่จะได้รับผลดีจากการย้ายฐานของญี่ปุ่นเข้ามาในไทยร็วขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ