โบรกฯ คาดเงินทุนตปท.ไหลออกกลางปีก่อนกลับเข้ามาปลายปี,มองน้ำมันยืนเหนือ 100 เหรียญฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 25, 2011 18:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางภรณี ทองเย็น ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส และอุปนายกสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวในงานมหกรรมวิเคราะห์หลักทรัพย์และการลงทุนว่า ในระยะ 1-3 เดือนข้างหน้าเม็ดเงินต่างชาติส่วนหนึ่งจะเริ่มไหลออกจากประเทศไทยกลับไปในสหรัฐและยุโรปที่เศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติขายไปแล้วกว่า 35% ซึ่งคาดว่าจะขายเต็มที่ประมาณ 40% ของ Fund flow ที่เข้ามาทั้งหมด

แต่ช่วงปลายปีเม็ดเงินต่างชาติเหล่านั้นจะกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้งหลังจจากอัตราดอกเบี้ยในประเทศปรับเข้าสู่ระดับสูงสุด โดยในปีนี้คาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะปรับเพิ่มขึ้นอีก 3 ครั้ง มาอยู่ที่ 3.25% ประกอบกับ จะมีความชัดเจนเรื่องการเมืองที่จะมีการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ ก่อนจะได้รัฐบาลใหม่ ซึ่งจะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน

"จากในอดีตที่ผ่านมาก่อนที่จะมีการยุบสภาตลาดหุ้นจะปรับตัวลดลง 1-2 อาทิตย์ และหลังจากได้รัฐบาลจะลงอีก 3-4 อาทิตย์ แต่หลังจากนั้นหุ้นก็จะปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งมองว่ากำไรของตลาดปีนี้จะอยู่ที่ 83.11 บาทต่อหุ้น หรือโต 12% ซึ่งกลุ่มที่มีกำไรดี คือ ปิโตรเคมี อาหาร โรงพยาบาล และโรงกลั่น และคาดว่าการเทรดปีนี้ P/E ที่ 13 เท่า ไม่หลุด 1 พันจุด และมีโอกาสเห็นสูงสุดที่ 1,163 จุด ในกรณีที่ไม่มีการปฏิวัติ"นางภรณี กล่าว

ส่วนกลุ่มที่น่าลงทุน บล.เอเชีย พลัส แนะนำลงทุนกลุ่มที่ไม่มีความเสี่ยงเรื่องเงินเฟ้อ อย่าง BANPU, PTT, RATCH, HEMRAJ และกลุ่มที่เกี่ยวกับอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภค อาทิ CPF, TUF, GFPT และ MAKRO และเลือกหุ้นที่มี P/E ต่ำและมีการจ่ายปันผลสูง อาทิ DTAC รวมถึง MAJOR ที่ได้รับผลดีจากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่จะเข้าต่อเนื่อง โดยคาดว่ากำไร MAJOR ช่วงไตรมาส 2-3 จะออกมาดีมาก

ด้านมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันเฉลี่ยในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 103-104 ดอลลาร์/บาร์เรล และมีโอกาสเห็นถึง 120 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังเกิดปัญหาในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ รวมทั้งปัญหาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทำให้ความต้องการใช้น้ำมันสูงขึ้น

"ในช่วงไตรมาส 1/54 ราคาน้ำมันค่อนข้างผันผวนจากปีก่อนที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 80-90 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่กลับเพิ่มสูงถึง 119 ดอลลาร์/บาร์เรลหลังมีปัญหาในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ซึ่งราคาน้ำมันทั้งปียังอยู่ในระดับสูงและมีโอกาสเห็น 200 ดอลลาร์/บาร์เร หากปัญหาความรุนแรงลุกลามเข้าไปในซาอุดิอาระเบีย"นายมนุญ กล่าว

สำหรับธุรกิจปิโตรเคมีมองว่าปีนี้จะฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งในประเทศไทยมีการควบรวมระหว่าง PTTCH กับ PTTAR ซึ่งการควบรวมที่เกิดขึ้นจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งและลดต้นทุนได้ดีขึ้นเช่นเดียวกับธุรกิจโรงกลั่นที่ยังมีแนวโน้มเติบโตจากความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ