บมจ.ไทยยูเนียน โฟรเซ่น โปรดักส์(TUF)ระบุว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ที่เกิดขึ้นในขณะนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตอาหารที่ทำจากกุ้ง เนื่องจากฟาร์มกุ้งส่วนใหญ่ที่เป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญของบริษัทอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งหากเกิดผลกระทบต่อต้นทุนมาก บริษัทก็อาจจะใช้แนวทางการปรับขึ้นราคาสินค้าตามต้นทุนที่สูงขึ้น
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร TUF กล่าวว่า เป็นห่วงเรื่องภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นหลายพื้นที่ของโลกในขณะนี้จะส่งผลกระทบต่อราคาอาหารทะเลให้ปรับสูงขึ้นตั้งแต่นี้ไปจนถึงสิ้นปี แม้ว่าขณะนี้ราคาปลาทูน่าจะเริ่มนิ่งอยู่ที่ 1.5 พันเหรียญ/ตัน แต่ราคากุ้งยังคงปรับตัวสูงขึ้นอีกเล็กน้อย หลังจากในปี 53 พุ่งขึ้นไปถึง 30% ซึ่งมองว่าไม่ควรจะสูงไปกว่านี
ขณะที่ประเทศไทยมีเหตุน้ำท่วมภาคใต้ซ้ำเติมสถานการณ์เข้ามา ซึ่งอาจทำให้ราคากุ้งได้รับผลกระทบและปรับสูงขึ้น บริษัทก็อาจต้องปรับราคาขายขึ้นตามเพื่อสอดคล้องกับต้นทุน หรืออาจจะไม่ขายล่วงหน้านาน โดยจากนี้ไปก็จะเห็นการปรับเปลี่ยนกลยุทธเพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางราคาวัตถุดิบ แต่ปีนี้สิ่งที่กังวลคือวัตถุดิบจะพอเพียงกับความต้องการของตลาดหรือไม่
"น้ำท่วมภาคใต้ต้องติดตาม เพราะเมื่อเกิดน้ำท่วมก็มีการจับกุ้งเร็วขึ้น เนื่องจากภาคใต้เป็นแหล่งวัตถุดิบหลักใหญ่ของประเทศ 60% ของกุ้งมาจากภาคใต้ตอนล่าง อีก 40% เป็นภาคใต้ตอนบนและภาคอื่น ๆ หากจับกุ้งเร็วขึ้นก็จะมีผลกระทบ ก็กำลังรอว่าจะมีผลกระทบมากน้อยแค่ไหน แต่ถ้าซื้อวัตถุดิบแพงก็จะรปับราคาขายแพงขึ้น"นายธีรพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทจะยังไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่ ๆ ในช่วง 2-3 ปี แต่จะเป็นการลงทุนปกติ เพื่อให้สัดส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E)ลดเหลือ 1.1 เท่าในปี 57 ซึ่งจากการมาให้ข้อมูลกับนักลงทุนต่างชาติในงาน"ไทยแลนด์โฟกัส 2011"ในวันนี้ นักลงทุนก็สนใจว่าบริษัทได้วางแผนการเติบโตในอนาคตอย่างไร โดยเฉพาะต่างประเทศ