นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายการเงินและบริหาร บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา(CENTEL) คาดว่า รายได้ในไตรมาส 1/54 จะดีกว่าไตรมาส 1/53 และ ดีกว่าไตรมาส 4/53 เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากหลังจากเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปฟื้นตัวชัดเจนขึ้น
CENTEL เน้นลูกค้ายุโรป เช่น อังกฤษ สแกนดิเนเวีย ฝรั่งเศส และมองแนวโน้มธุรกิจท่องเที่ยวในปีนี้ดีกว่าปีก่อน สัดส่วนลูกค้าโรงแรมเป็นลูกค้าเอเชียกว่า 30%, ยุโรป กว่า 30% ที่เหลือเป็นอื่นๆ ส่วนลูกค้าญี่ปุ่นมีเพียง 3%ซึ่งไม่กระทบ ซึ่งสามารถหาลูกค้าส่วนอื่นมาทดแทนได้
ทั้งปี 54 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 15% จากปีก่อน มาที่ 1.1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจอาหาร 5,800 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจโรงแรม 5,200 ล้านบาท โดยธุรกิจโรงแรมในปีนี้เติบโตจากธุรกิจท่องเที่ยวดีขึ้น ซึ่งทางการคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยจำนวน 17.3 ล้านคนหรือเพิ่มขึ้นประมาณ 8-9%จากปีที่แล้ว ขณะที่ธุรกิจอาหารก็เติบโตต่อเนื่องโดยปีนี้คาดว่าเติบโต 3-4%
"ผลการดำเนินงานในปี 54 จะดีกว่าปี 53 เป็นไปตามสัดส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับ โรงแรมใหม่ที่เปิดไปก่อนหน้านี้จะรับรู้รายได้เต็มที่ และความกังวลเรื่องค่าเสื่อมราคา ดอกเบี้ยจะลดลง" นายรณชิต กล่าว
นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทจะเน้นการรับจ้างบริหารโรงแรม โดยตั้งเป้าจะรับจ้างบริหาร 12 โรงแรม เป็นโรงแรมในต่างประเทศ 5 แห่ง และโรงแรมในประเทศ 7 แห่ง โดยโรงแรมที่รับจ้างบริหาร ได้เปิดให้บริการ 20 แห่ง และ มีแผนเปิดใน 2-3 ปีข้างหน้าอีกกว่า 10 แห่ง
นายรณชิต กล่าวว่า บริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้ราว 1.4 พันล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่ตั้งงบ 2 พันล้านบาท เนื่องจากไม่มีการลงทุนโรงแรมใหม่ แต่จะลงทุนธุรกิจอาหาร 500 ล้านบาท ที่เหลือลงทุนในธุรกิจโรงแรม ซึ่งเป็นการซ่อมปรับปรุงที่โรงแรมโซฟิเทล เซนทาราแกรนด์ ลาดพร้าว ซึ่งคาดว่าปลายปีนี้จะแล้วเสร็จ
แหล่งเงินของบริษัทจะมาจากกระแสเงินสด อยู่ที่ 2 พันล้านบาทในปัจจุบันจากสิ้นปี 53 อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท ส่วนอัตราหนี้สินต่อทุน(D/E) 1.6 เท่า ในปัจจุบัน และไม่มีแผนจะกู้เงินเพิ่ม