นางอรอนงค์ หยิบยานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์นักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT) คาดว่า งวดปี 54 กำไรสุทธิจะดีกว่างวดปี 53 แน่นอน จากจำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น โดยบริษัทตั้งจำนวนผู้โดยสารในปีนี้เติบโต 9-10% และจำนวนเที่ยวบินเติบโต 7% ซึ่งปกติจะทำได้เกินเป้าหมายอยู่แล้ว
แต่ผลประกอบการจะเป็นไปตามที่คาดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ว่าสถานการณ์ภายในประเทศจะต้องไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในอดีต รวมทั้งไม่มีภัยพิบัติเกิดขึ้นจนส่งผลกระทบ ส่วนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปีนี้เชื่อว่าคงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเกิดภัยพิบัติที่ญี่ปุ่น แต่ขณะนี้ตัวเลขผู้โดยสารที่เดินทางผ่านสนามบินสุวรรณภูมิในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.54 ยังเป็นบวกค่อนข้างดี เที่ยวบินจากญี่ปุ่นมาไทยยังเต็มล่วงหน้าไปอีกหลายเดือน แต่บริษัทก็ยังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยจะประเมินสถานการณ์อีกครั้งในช่วงเดือน เม.ย.นี้
สำหรับสัดส่วนผู้โดยสารที่เดินทางผ่านสนามบินภายใต้การบริหารของ AOT ได้แก่ เอเชีย 22% ญี่ปุ่น 6.8% จีน 6.4% อินเดีย 5.3% อังกฤษ 4.2% เกาหลีใต้ 4.09% สหรัฐ 3.8% รัสเซีย 3.6% เยอรมัน 3.5% ออสเตรเลีย 3% ส่วนที่เหลือเป็นชาติอื่นๆ
นางอรอนงค์ กล่าวว่า ในงวดปีนี้บริษัทได้เตรียมงบลงทุนไว้ 6.2 หมื่นล้านบาทเพื่อพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 หลังจากได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี โดยอยู่ระหว่างการกำหนด TOR และคัดเลือกผู้บริหารโครงการ ซึ่งกระบวนการน่าจะเสร็จสิ้นและเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 55 โดยจะแล้วเสร็จภายในปี 59
สำหรับเงินลงทุนดังกล่าวจะมาจากเงินทุนของบริษัท 72% ซึ่งปัจจุบันบริษัทยังกระแสเงินสดค่อนข้างมาก ส่วนที่เหลืออาจจะมาจากการระดมทุนด้วยการกู้จากสถาบันการเงินหรืออกหุ้นกู้
นอกจากนั้น ยังจะมีการลงทุน 5.7 พันล้านบาท เพื่อขยายสนามบินภูเก็ต เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นอีก 6 ล้านคน จากปัจจุบันที่สามารถรองรับได้ 6.5 ล้านคน คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 56