โบรกเกอร์เห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้น บมจ.บัตรกรุงไทย(KTC) เนื่องจากปีนี้จะเป็นปี Turnaround ของ KTC ภายหลังจากได้มีการเปลี่ยนแปลงทางบัญชีเรียบร้อยแล้ว ในเรื่องการตั้งสำรองหนี้ฯซึ่งจะกลับมาเป็นปกติ และ ยังรับผลบวกภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นด้วย ทำให้การใช้จ่ายดีขึ้น ส่งผลให้มีการขยายตัวของสินเชื่อส่วนบุคคล และยอดการใช้บัครเครดิตที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ ราคาหุ้น KTC ในช่วงที่ผ่านมาได้ปรับตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ดังนั้นจึงถือว่าราคาหุ้นในปัจจุบันยังถูกอยู่ เมื่อเทียบกับธุรกิจที่ดีขึ้นในปีนี้ จากภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้(2554)ไว้ในช่วง 370-408 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว(2553)ที่มีกำไรสุทธิ 224 ล้านบาท อีกทั้งเมื่อผลประกอบการของ KTC ดีขึ้นก็คาดว่าจะมีการจ่ายเงินปันผลในปีนี้(2554)ดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว(2553)ที่จ่าย 0.45 บาท/หุ้น โดยปีนี้คาดว่าจะจ่ายเงินปันผลประมาณ 0.80 บาท/หุ้น
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) บล.โกลเบล็ก ซื้อ 25.00 บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) ซื้อ 18.20 บล.เกียรตินาคิน ซื้อ 21.10 บล.ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 20.00 บล.บัวหลวง ซื้อ 21.00
นายสุวัฒน์ บำรุงชาติอุดม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง แนะ"ซื้อ"หุ้น KTC โดยมองว่าปีนี้จะเป็นปีที่ Turnaround ของ KTC เนื่องจาก KTC ได้มีการเปลี่ยนแปลงทางบัญชีเรียบร้อยแล้ว โดยมีการเปลี่ยนแปลงในแง่ของการตั้งสำรองหนี้เพื่อให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ของแบงก์ชาติ ดังนั้นปีนี้กำไรของ KTC ก็จะกลับมาเป็นปกติ
นอกจากนี้ ราคาหุ้น KTC ในช่วงที่ผ่านมาได้ปรับตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ดังนั้นจึงถือว่าราคาหุ้นในปัจจุบันยังถูกอยู่ เมื่อเทียบกับธุรกิจที่ดีขึ้นในปีนี้ จากภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ขณะที่ตัวเลข NPL ของ KTC ก็ยังถือเป็นปกติแค่ 2-3% เท่านั้น
พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 54 ไว้ที่ 370 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 224 ล้านบาท
นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า KTC เป็นหุ้น Turnaround โดยปีนี้กำไรของ KTC จะดีขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ทำให้การใช้จ่ายดีขึ้น ส่งผลให้การขยายตัวสินเชื่อของ KTC ดีขึ้นด้วย
นอกจากนี้ การที่ KTC ได้มีการปรับเปลี่ยนทางบัญชีแล้ว ทำให้การตั้งสำรองหนี้ฯของ KTC ลดลง ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ผลประกอบการของ KTC ดีขึ้น โดยคาดว่าปี 54 กำไรสุทธิจะอยู่ที่ 408 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 53 ที่มีกำไรสุทธิ 224 ล้านบาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน มองในทิศทางเดียวกันว่า ผลประกอบการของ KTC ปีนี้จะเป็นปี Turnaround จากก่อนหน้านี้ที่มีผลขาดทุน ทั้งนี้เป็นผลจากการตั้งสำรองหนี้ฯได้กลับมาเป็นปกติ และจากการที่ภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น ทำให้สินเชื่อส่วนบุคคล และการใช้บัตรเครดิตดีขึ้นด้วย
ทั้งนี้ เมื่อผลประกอบการของ KTC ดีขึ้นก็คาดว่าจะมีการจ่ายเงินปันผลในปี 54 ดีขึ้นกว่าปีที่แล้วที่จ่าย 0.45 บาท/หุ้น โดยปีนี้คาดว่าจะจ่ายเงินปันผลประมาณ 0.80 บาท/หุ้น สำหรับผลกำไรสุทธิปี 54 คาดว่าจะมี 397 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 53 ที่มีกำไรสุทธิ 224 ล้านบาท
ด้านบล.โกลเบล็ก ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น KTC โดยมองว่าแผนการตลาดเชิงรุกน่าจะช่วยเพิ่มรายได้จากกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพในการเติบโตและมีความเสี่ยงในระดับที่ยอมรับได้ คาดการณ์กำไรสุทธิปี 54 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องอีก 78% จาก 224 ล้านบาทในปี 53 เป็น 398 ล้านบาท