นางสาววีรวรรณ ขอไพบูลย์ รองประธานอาวุโส สายงานบริหาร บมจ.ไทยสโตเรจ แบตเตอรี่(BAT-3K)กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 54 เติบโต 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 5.3 พันล้านบาท เป็น 5.8-6.0 พันล้านบาท รวมทั้งกำไรในปีนี้จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไร 207 ล้านบาท พร้อมทั้งรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้ในระดับ 30%
การเติบโตของกำไรและรายได้เป็นการเติบโตจากยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งเป็นผลจากการทำกิจกรรมการตลาดและการทำโฆษณาโปรโมชั่นส่งเสริมการขายในรูปแบบต่าง ๆ ประกอบกับอุตสาหกรรมยานยนต์มีแนวโน้มเติบโตได้ดี
นอกจากนั้น ยังได้รับผลดีจากการออกแบตเตอรี่ชนิดใหม่ 3K V-Series ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น โดยในปีที่ผ่านมามีสัดส่วนรายได้ในประเทศ 20% และปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 40%
สำหรับรายได้ในช่วงไตรมาส 1/54 คาดว่าจะดีกว่าไตรมาส 1/53 เนื่องจากมีคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามาเพิ่มขึ้น ประกอบกับได้รับปัจจัยบวกจากเหตุการณ์ภัยพิบัติในญี่ปุ่นทำให้มีลูกค้าจากญี่ปุ่นสั่งซื้อสินค้าเข้ามาเพิ่มขึ้นด้วยเพื่อนำแบตเตอรี่ไปใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าในช่วงที่โรงไฟฟ้ามีปัญหา
บริษัทคาดว่าในปีนี้สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 55% จากเดิม 50% เนื่องจากบริษัทจะเน้นการจำหน่ายสินค้าในต่างประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้ราคาดีกว่าการจำหน่ายในประเทศ เพราะสามารถปรับราคาขายได้มากกว่า ไม่เหมือนกับการปรับราคาขายในประเทศจะต้องได้รับอนุญาตจากทางการ ขณะที่ราคาตะกั่วในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 2.6-2.7 พันเหรียญสหรัฐ/ตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 2.3 พันเหรียญสหรัฐ/ตัน
ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงเครื่องจักร และตั้งงบประมาณทางการตลาด 90 ล้านบาท เพื่อทำโฆษณาแบตเตอรี่ 3K V-Series
"ปีนี้จะนำ 3K V-Series จะนำไปขายต่างประเทศเพิ่มขึ้น หลังจากปีที่ผ่านมาการจำหน่ายในประเทศได้รับผลตอบรับที่ดีมาก โดยมียอดขายมากกว่าแบตเตอรี่แบบเดิม ซึ่งในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีก่อนทำยอดขายได้ดีกว่ายอดขายแบตเตอรี่แบบเดิมทั้งปี ในปีนี้ก็คาดว่าจะเติบโตต่อ แม้จะมีมาร์จิ้นใกล้เคียงกัน"นางสาววีรวรรณ กล่าว