บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร เซอร์วิส(ADVANC)คาดว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)ได้ภายในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.54 และมั่นใจว่า กสทช.จะสามารถเปิดประมูลใบอนุญาตให้บริการระบบ 3G บนคลื่นใหม่ได้ในช่วงต้นปี 55 โดยบริษัทได้เตรียมทุนเพื่อลงทุนในโครงข่าย 3G ใหม่ เกินกว่า 1 หมื่นล้านบาท
"ผมมั่นใจว่าคณะกรรมการ กสทช.จะมีการประมูลใบอนุญาต 3G ได้ในต้นปี 55"นายสมประสงค์ บุญยะชัย รองประธานกรรมการ ADVANC กล่าวในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น
ทั้งนี้ ทางการอยู่ระหว่างรับสมัครผู้จะเป็นกรรมการ กสทช.ภายในเดือนเม.ย.นี้ และคาดว่าจะใช้เวลา 3 เดือนในการคัดเลือกสรรหา กสทช. โดยวุฒิสภา
ดังนั้น บริษัทจึงไม่ได้กังวลเกี่ยวกับการหมดอายสัญญาสัมปทานกับบมจ.ทีโอที ที่จะหมดอายุในปี 58 และในสัญญาระบุว่า บริษัทสามารถเจรจาต่อสัญญาได้ก่อนหมดอายุ 1 ปี อย่างไรก็ตาม เห็นว่าการแข่งขันธุรกิจโทรคมนาคมในอนาคตจะอยู่บนใบอนุญาตที่จ่ายค่าธรรมเนียมเท่ากัน ไม่ใช่การจ่ายส่วนแบ่งรายได้เช่นปัจจุบัน
นายวิเชียร เมตระการ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร ADVANC กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทได้ให้บริการ 3G บนคลื่นเดิม ที่ได้รับอนุญาตติดตั้ง 1,884 สถานีฐาน ส่วนใหญ่อยู่ตามเมืองใหญ่รวมกรุงเทพ เป็น 20 จังหวัด ได้ทยอยติดตั้งคาดว่จะแล้วเสร็จในกลางปีนี้
ด้านนายพงษ์อมร นิ่มพูลสวัสดิ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน ADVANC กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทจะออกหุ้นกู้ไม่ถึง 2 หมื่นล้านบาทตามที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันนี้ โดยส่วนหนึ่งจะนำไปชำระหนี้ที่เป็นหุ้นกู้เดิมที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในปีนี้จำนวน 1.58 หมื่นล้านบาท จากหุ้นกู้ที่มีทั้งหมด 1.9 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทมีหนี้สินทั้งหมด 5.6 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้จะนำไปใช้ลงทุนโครงข่าย 3G และ 4G
ขณะเดียวกัน ในปี 54 บริษัทจะสามารถจ่ายเงินปันผลได้ตามนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 100% ของกำไรสุทธิ แต่คงจะไม่มีการจ่ายเงินปันผลพิเศษ โดยต้องพิจารณาหลังจากสำรองตามกฎหมายและมีกำไรสะสมตามกฎหมาย โดยสิ้นปี 53 บริษัทมีกำไรสะสม 1.5 หมื่นล้านบาท หลังจากเงินปันผลรวมประมาณ 3.8 หมื่นล้านบาท (เงินปันผลหุ้นละ 12.92 บาท เป็นปันผลระหว่างกาล 3.00 บาท ปันผลประจำปี 3.92 บาท และ ปันผลพิเศษ 6.00 บาท)
"บริษัทตั้งใจเมื่อมีกำไร ก็จะจ่ายปันผล อัตราการจ่ายปันผลเราตั้งใจจ่ายเต็มจำนวน" นายพงษ์อมร กล่าวกับผู้ถือหุ้น
ขณะที่ปี 52 จ่ายปันผลรวม 3.4 หมื่นล้านบาท จากปันผลหุ้นละ 11.30 บาท (จากปันผลระหว่างกาล 3.00 บาท ปันผลประจำปี 3.30 บาท และปันผลพิเศษ 5.00 บาท)
*รอลุ้นคำชี้ขาดอนุญาโตฯ
นายสมประสงค์ คาดว่าเร็วๆนี้ จะมีคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการเกี่ยวกับกรณีที่ทีโอทีเรียกร้องให้บริษัทชำระเงินส่วนแบ่งรายได้เพิ่มเติมภรณีภาษีสรรพสามิตหักออกจากส่วนแบ่งรายได้ จำนวน 36,816 ล้านบาท หลังจากเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 54 ได้มีคำชี้ขาดคณะอนญาโตตุลาการกรณีบมจ.กสท โทรคมนาคม เรียกร้องให้บริษัท ดีพีซี (บริษัทย่อย ถือ 98.55%) กรณีภาษีสรรพสามิตหักออกจากส่วนแบ่งรายได้ โดยข้อพิพาทนี้บริษัทได้ยื่นไปตั้งแต่ปี 51
ผู้แทนจากบริษัท วีระวงศ์ ชินวัฒน์ เพียงพนอ จำกัด ซึ่งเป็นที่ปรึกษากฎหมายภายนอกของ ADVANC กล่าวว่า เท่าที่ได้พูดคุยกับฝ่ายบริหาร เชื่อว่า ทางบริษัทมีข้อเท็จจริงให้มีคำชี้ขาดไม่น่าจะเป็นผลร้ายใดๆ และเห็นว่าข้อพิพาทของ ดีพีซี กับ กสท นั้น ทางดีพีซีเป็นผู้ชนะ ด้วยคะแนน 5 ต่อ 0 (คณะอนุญาโตตุลาการประกอบด้วยฝ่าย กสท 2 คน , ดีพีซี 2 คน และ คนกลาง 1 คน) ทั้งนี้ จะต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่ง
"ในทุกคดีไม่มีอะไร 100% เราพูดไปตามเหตุการณ์ สิ่งที่เรามีเป็นข้อเท็จจริง เราเชื่อว่าโอกาสร้ายคงไม่มี" ผู้แทนจากบริษัท วีระวงศ์ฯ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสามารถอุทธรณ์ต่อศาลใดก็ได้ภายใน 90 วัน หลังจากมีคำชี้ขาด
ส่วนข้อพิพาทกับ ทีโอที เรียกร้องค่าเสียหายกรณีที่บริษัทมีการแก้ไขสัญญาครั้งที่ 6 เป็นเรื่องพรีเพด และ ครั้งที่ 7 เรื่องการโรมมิ่งนั้น ทีโอทีได้เรียกค่าเสียหาย จำนวน 36,995 ล้านบาทนั้น นายสมประสงค์ กล่าวว่า เมื่อ 9 มี.ค. 54 บริษัทได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการและให้คณะอนุญาโตตุลาการชี้ขาด โดยได้มีการจัดตั้งคณะอนุญาโตตุลาการ 5 คนคือมาจากฝ่ายบริษัท 2 คน ฝ่ายทีโอที 2 คน และ คนกลาง 1 คน
สำหรับข้อพิพาทกรณีที่ทีโอทีเรียกร้องให้บริษัทชำระค่าส่วนบ่งรายได้จากค่าเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม(IC)จำนวน 17,803 ล้านบาท บริษัทได้ยื่นข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการไปแล้วเมื่อ 11 ก.พ. 54 ก่อนจะถึงวันครบกำหนดชำระในวันที่ 15 ก.พ. 54
ทั้งนี้ บริษัทได้มีการแก้ไขสัญญาสัมปทานมาทั้งหมด 7 ครั้ง
นายสมประสงค์ กล่าวว่า กรณีที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการเจรจาสัญญาสัปทานจากที่ทีโอทีมีหนังสือเรียกน้องให้บริษัทชำระหนี้และปฏิบัติตามสัญญาอนุญาตให้ดำเนินการบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตัวแทนบริษัทได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมการเจรจาฯแล้วหนึ่งครั้ง และในวันพรุ่งนี้ (1 เม.ย.) บริษัทจะนำข้อประชุมที่ได้หารอืกับคณะกรรมการบริษัทมาเสนอต่อคณะกรรมการเจรจาฯ
อย่างไรก็ดี ในช่วงที่มีข้อพิพาทและยังไม่มีคำตัดสินใดๆ บริษัทก็ยังคงดำเนินกิจการไปได้ตามปกติ