บล.ภัทร มองเฮดจ์ฟันด์ยังเมินหุ้นไทย มูลค่าตลาดน้อย-กังวลการเมือง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 31, 2011 17:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจอน วงศ์สวรรค์ ผู้อำนวยการ สายงานค้าหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า บล.ภัทร กล่าวว่า กองทุนเฮดจ์ฟันด์เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยน้อย แม้ว่ายังเสาะหาการลงทุนใน Emerging Markets เพราะกังวลเรื่องความเสี่ยงเรื่องการเมือง มาตรการควบคุมเม็ดเงินไหลเข้าออก(capital control risk)ซึ่งแม้ทางการไทยออกมาตรการครั้งเดียว แต่ก็ทำให้นักลงทุนจำไปอีกนาน

ทั้งนี้ น้ำหนักของตลาดหุ้นไทยใน MSCI Asia (ไม่รวมญี่ปุ่น) คิดเป็นประมาณ 3% และ MSCI Emerging Markets ประมาณ 1.5%

"มุมมองเฮดจ์ฟันด์จากนี้ไปยังอยากจะมาลงทุนใน Emerging Markets เยอะอยู่ เพราะการเติบโตของโลกในอีก 10 ปีข้างหน้า เอเชียยังเป็นหลัก ขณะที่ตลาดหุ้นไทยอาจยังไม่ efficiency มากนัก คิดว่ายังมีโอกาสหาเงินได้อีก สภาพคล่องก็ยังไม่มาก จึงอยากจะให้มี investor ในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น ทั้งต่างชาติและในประเทศ เพราะถ้าเทรดเยอะมูลค่าตามราคาตลาดก็จะสะท้อน economic value ที่แท้จริงของบริษัทจดทะเบียนมากขึ้น"นายจอน กล่าวในหัวข้อ"อุตสาหกรรมเฮดจ์ฟันด์ในโลก"

ทั้งนี้ นายจอน เห็นว่า ประเทศไทยควรจะเน้นจุดแข็งเพื่อดึงดูดการลงทุนเข้ามา โดยเฉพาะกลุ่มเกษตร เช่น ข้าว ยางพารา ปาล์ม น้ำตาล ซึ่งปัจจุบันบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจเกษตรยังมีอยู่น้อย จึงควรเพิ่มบริษัทจดทะเบียนในธุรกิจดังกล่าวให้มากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับโครงสร้างจีดีพีของประเทศ

นอกจากนี้ ตลาดอนุพันธ์สินค้าเกษตรควรมีสินค้ามากขึ้น รวมทั้งการปรับปรุงกลไกการกู้ยืมเงินมาลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่มด้วย โดยเห็นว่านักลงทุนต่างประเทศมีต้นทุนกู้ยืมเงินถูก แต่ในไทยมีต้นทุนสูง

นายจอน กล่าวว่า โอกาสในการจะทำกำไรของกองทุนเฮดจ์ฟันด์จะกระจายในสินทรัพย์ต่างๆ ทั้งตลาดเงินตราต่างประเทศ ตลาดตราสารหนี้ ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ที่มีโอกาสใกล้เคียงกัน แต่สำหรับในไทยยังไม่เห็นว่ามีสินทรัพย์ได้ให้กำไรได้มากกว่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ