ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกราคาน้ำมันพุ่ง ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 30.88 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 1, 2011 06:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (31 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะนี้จะส่งผลให้สหรัฐเผชิญกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจด้วย นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ในญี่ปุ่น และสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองทั้งในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 30.88 จุด หรือ 0.25% แตะที่ 12,319.73 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 2.43 จุด หรือ 0.18% แตะที่ 1,325.83 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 4.28 จุด หรือ 0.15% แตะที่ 2,781.07 จุด

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากความกังวลว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น อาจจะทำให้เกิดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเมื่อคืนนี้ สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 2.45 ดอลลาร์ แตะที่ 106.72 ดอลลาร์/บาร์เรล

นักลงทุนส่วนใหญ่ผิดหวังต่อจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ โดยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 มี.ค.ร่วงลง 6,000 ราย แตะระดับ 388,000 ราย แต่ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 380,000 ราย

ภาวะการซื้อขายโดยรวมยังคงได้รับผลกระทบจากความกังวลเรื่องวิกฤตนิวเคลียร์ในญี่ปุ่น และสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและแอฟริกาใต้ โดยมีรายงานว่าระดับของสารกัมมันตรังสีไอโอดีน-131 ที่ตรวจพบในน้ำทะเลในบริเวณที่ตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่า ไดอิจิ ในช่วงเช้าวานนี้ สูงกว่าเพดานสูงสุดที่กฎหมายกำหนดไว้ถึง 4,385 เท่า สะท้อนให้เห็นว่าสารกัมมันตรังสียังคงรั่วไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง

ส่วนสถานการณ์ล่าสุดในลิเบียนั้น สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กองกำลังทหารของมูอัมมาร์ กัดดาฟี สามารถยึดท่าเรือลำเลียงน้ำมันราสลานอฟกลับมาได้อีกครั้ง หลังจากที่กลุ่มต่อต้านกัดดาฟีเคยยึดพื้นที่ดังกล่าวเป็นฐานที่มั่น ซึ่งรายงานข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงเมื่อคืนนี้

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยลบหลังจากธนาคารกลางไอร์แลนด์เปิดเผยว่า ธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศจำเป็นต้องระดมทุนเพิ่มอีก 2.4 หมื่นล้านยูโรในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และมีธนาคาร 4 แห่งที่อาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากกองทุนฉุกเฉินของสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนวันศุกร์ตามเวลาประเทศไทย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.พ., สถาบัน ISM จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนมี.ค. และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค. ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนมี.ค.จะทรงตัวอยู่ที่ 8.9%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ