พล.ท.วิจัย จันทรานุตร รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์และอุตสาหกรรม (NEP) ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ เปิดเผยว่า ปี 54 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตประมาณ 40% จากปี 53 เนื่องจากในปีนี้บริษัทได้เพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ และจัดซื้อเครื่องจักรใหม่เข้ามา จึงเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และส่งผลให้มียอดขายเติบโตดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยโรงงานจะสามารถดำเนินธุรกิจได้ดี มีความต่อเนื่อง และเกิดสภาพคล่องมากขึ้น
ในปีนี้บริษัทมีแผนปรับเปลี่ยนรูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นกลุ่มระดับพรีเมี่ยมมากขึ้น เนื่องจากผู้ผลิตสินค้าในตลาดเริ่มให้ความสำคัญกับบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามมากขึ้น จึงเปลี่ยนรูปแบบผลิตภัณฑ์จากกระสอบพิมพ์เฟล็กโชแบบธรรมดา มาเป็นกระสอบกราเวียร์มากขึ้น ทำให้บริษัทหันมาเน้นการผลิตและขายสินค้าในระดับพรีเมี่ยม และเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มแทน เช่น กระสอบพิมพ์ กระสอบพิมพ์เคลือบ และกระสอบกราเวียร์ และลดสัดส่วนการขายกระสอบขาวหรือผืนผ้า
ไตรมาส 4/54 บริษัทฯจะเพิ่มสายการผลิตบรรจุภัณฑ์อื่นๆ ที่ใช้เทคโนโลยีในการพิมพ์กราเวียร์ ซึ่งสามารถใช้เครื่องจักรเดียวกับการพิมพ์ฟิล์มกราเวียร์ เช่น ฉลากขวดน้ำ ซองขนมขบเคี้ยว ถุงข้าว โดยในการทำการตลาดช่วงแรกจะจำหน่ายให้กับลูกค้าหลัก ๆ ของบริษัทก่อน ซึ่งปัจจุบันสั่งซื้อกระสอบบรรจุขนาดใหญ่ และใช้ถุง Soft Packaging อยู่แล้ว
และในวันนี้บริษัทได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์โรงงานแห่งใหม่ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา โดยคาดว่าโรงงานดังกล่าวจะก่อสร้างแล้วเสร็จ และดำเนินการได้ภายในไตรมาส 3/54 ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถผลิตสินค้าได้หลากหลาย และมีคุณภาพสูงยิ่งขึ้น รวมทั้งยังช่วยเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าได้ครอบคลุมมากขึ้น
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทเมื่อ 15 มี.ค.ที่ผ่านมาได้อนุมัติที่ดินเพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ในนิคมนวนคร นครราชสีมา รวมถึงเครื่องจักรใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต ซึ่งการย้ายฐานการผลิตไปอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม จะทำให้บริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากบีโอไอ บริษัทมีเป้าหมายที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จในปี 54 โดยแบ่งออกเป็น 3 เฟส โดยเฟสแรกจะย้ายส่วนการผลิตสินค้าสำเร็จรูปของกระสอบพิมพ์เฟล็กโซ เฟสที่ 2 ติดตั้งเครื่องจักรใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์กราเวียร์ และ เฟสที่ 3 ย้ายการผลิตทั้งหมดและเพิ่มสายการผลิตบรรจุภัณฑ์กราเวียร์อื่นๆ