บมจ.สตีล อินเตอร์เทค(STEEL) คาดว่ารายได้รวมในปี 54 จะอยู่ที่ 1 พันล้านบาท หลังควบรวมกิจการกับบริษัท โซล่า เพาเวอร์ จำกัด (SPC) โดยบริษัทมีแผนจะเปลี่ยนชื่อจาก STEEL เป็น SPCG หลังการควบรวมกิจการ เพื่อให้สอดคล้องกับธุรกิจ
บริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้สำหรับการก่อสร้างโซลาร์ฟาร์มจำนวน 16 โครงการ รวม 1 หมื่นล้านบาท โดยแหล่งเงินมาจากเงินกู้ธ.กสิกรไทย ประมาณ 70% ซึ่งได้ขอวงเงินกู้ไว้แล้วและ 30% มาจากส่วนทุนบริษัท ทั้งนี้ คาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จภายในปีนี้ จำนวน 10 โครงการ ซึ่งจะทำให้สามารถรับรู้รายได้ 500 ล้านบาท โดยปัจจุบันมี 3 โครงการก่อสร้างเสร็จแล้ว และเริ่มรับรู้รายได้แล้ว และคาดว่าในสิ้นไตรมาส 2/54 จะก่อสร้างแล้วเสร็จอีก 5 โครงการ
น.ส.วันดี กุญชรยาคง กรรมการผู้จัดการ SPC กล่าวว่า รายได้รวมปี 54 หลังบริษัทควบรวมกิจการกับ STEEL จะมาจากการรับรู้รายได้จากการขายผลิตถัณฑ์แผ่นเหล็กหลังคาเคลือบในส่วนของธุรกิจเดิม STEEL และรายได้จากการขายไฟให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจากโครงการโซล่าฟาร์มที่คาดว่าจะเสร็จ 10 โครงการในสิ้นปีนี้ที่จะทยอยรับรู้รายได้
สิ้นไตรมาส 2/54 คาดว่าจะรับรู้รายได้จำนวน 5 โครงการ แบ่งเป็นโครงการที่เสร็จปลายปีก่อนซึ่งมารับรู้เต็มปี 1, โครงการ ที่ก่อสร้างเสร็จเมื่อต้นปีนี้อีก 2 โครงการ กำลังผลิตโครงการละ 6 เมกะวัตต์ มูลค่าลงทุน 630 ล้านบาท/โครงการ และอีก 2 โครงการที่ จ.นครราชสีมาจะแล้วเสร็จใน มิ.ย.นี้และเริ่มจ่ายไฟให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)ได้
ทั้งนี้ STEEL ตั้งเป้าจะร่วมพัฒนาโครงการโซล่าฟาร์มกับ SPC รวมทั้งสิ้น 34 โครงการให้แล้วเสร็จครบทั้งหมดภายในปี 56 มูลค่าการลงทุน 2.4 หมี่นล้านบาท โดยพื้นที่ก่อสร้างโซล่าฟาร์มส่วนมากอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ละโครงการจะมีรายได้ประมาณ 100-120 ล้านบาท/ปี
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะดำเนินการเปลี่ยนชื่อ STEEL เป็น บมจ.เอสพีซีจี (SPCG) ในการซื้อขายในปีนี้ แต่จะยังอยู่ในตลาด mai ต่อไปถึงแม้หลังควบรวมกิจการแล้วจะมีมาร์เก็ตแคปของบริษัทเพิ่มเป็น 1.3 หมื่นล้านบาทก็ตาม ซึ่งดีลนี้ถือเป็นดีลแรกที่เข้าซื้อขายในตลาด mai ตามเกณฑ์มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 1 พันล้านบาท
ด้านนายประสิทธิ์ อุ่นวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ STEEL กล่าวว่า ปี 54 งบเฉพาะกิจการ บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% จากปี 53 ที่มี่รายได้ 316 ล้านบาท เป็นรายได้จากการขายผลิตถัณฑ์แผ่นเหล็กหลังคาเคลือบ
"SPC จะทำโรงไฟฟ้าโซล่าฟาร์ม 34 โครงการ ในระยะยาวจะส่งผลดีต่อธุรกิจ ต่อไปธุรกิจหลักก็จะเป็นโรงไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์ ธุรกิจเดิมก็จะเป็นธุรกิจรอง แต่ก็ยังเกื้อหนุน มี synergy กับ STEEL ก็จะมีส่วนช่วยเหล็กหลังคาเคลื่อบในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่เหลือ" นายประสิทธิ์ กล่าว