นายสมประสงค์ บุญยะชัย ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น (SHIN) เปิดเผยว่า SHIN ได้เปลี่ยนโลโก้ใหม่ เป็น "INTOUCH" และเปลี่ยนชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์ เป็น "INTUCH" เพื่อเป็นการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของบริษัทเสียใหม่ หลังจากใช้โลโก้เดิมมาเป็น 20 ปี
แต่ยืนยันไม่เปลี่ยนชื่อบริษัท และจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริหาร และโครงสร้างธุรกิจแต่อย่างใด และการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง พร้อมยืนยีนว่าธุรกิจของบริษัทไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองใด
สำหรับการทำธุรกิจใหม่ ขณะนี้มีการศึกษาในการทำธุรกิจใหม่เพิ่มเติมซึ่งเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจโทรคมนาคมและสื่อสาร แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ จนกว่าคณะกรรมการบริษัทจะเห็นชอบ
นายสมประสงค์ กล่าวว่า ธุรกิจหลักของบริษัทยังเป็นธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ของบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ เอไอเอส (ถือ 42.54%) และมื่นใจว่า การเปิดประมูล 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz จะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 55 และจะส่งผลดีต่อธุรกิจจากที่ต้องอยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานในปัจจุบัน มาเป็นการจ่ายค่าใบอนุญาต ซึ่งจ่ายส่วนแบ่งรายได้ต่ำลง และไม่ต้องส่งมอบอุปกรณ์ ทำให้การลงทุนด้านโครงข่ายมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ส่วนบมจ.ไทยคม (THCOM) (ถือ 41.14%) เชื่อว่า ปีนี้ไอพีสตาร์จะมีลูกค้าใหม่เพิ่มมากขึ้น ทั้งจากญี่ปุ่น อินเดีย และจีน รวมทั้งมีความคืบหน้าในการสร้างดาวเทียมดวงใหม่ ซึ่งเชื่อว่าจะมีข้อสรุปที่ดีให้กับบริษัท
ด้านนายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ กรรมการ SHIN และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร THCOM เปิดเผยว่า วานนี้ทีมงานของไทยคม ได้เข้าเจรจาพูดคุยกับทีมงานกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) ที่รมว.ไอซีทีมีการแต่งตั้งขึ้น โดยจะมีการประชุมความคืบหน้าในช่วงบ่ายนี้ เพื่อรับทราบผลที่ไปเจรจากับก.ไอซีที เชื่อว่าจะมีความคืบหน้า และบริษัทมีความพร้อมในการลงทุนดาวเทียมดวงใหม่ ที่จะใช้งบลงทุนประมาณ 100 ล้านเหรียญ และใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปีครึ่ง โดยบริษัทจะใช้เงินกู้จากสถาบันการเงิน และกระแสเงินสดของบริษัท
"หากอนุมัติดาวเทียมดวงใหม่ให้สร้าง บริษัทก็มีความพร้อมดำเนินการทันที พร้อมเงินร้อยล้านเหรียญ ถือว่าไม่เยอะ ไม่เหมือนการลงทุนในไทยคม 4 (ไอพีสตาร์) ที่ใช้เงินจำนวนมาก"นายอารักษ์ กล่วา