ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 เม.ย.) ขานรับการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานของสหรัฐประจำเดือนมี.ค.ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐกำลังฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 56.99 จุด หรือ 0.46% แตะที่ 12,376.72 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 6.58 จุด หรือ 0.50% แตะที่ 1,332.41 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดเพิ่ม 8.53 จุด หรือ 0.31% แตะที่ 2,789.60 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นเป็นไปอย่างคึกคักขานรับการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้น 216,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานของสหรัฐในเดือนมี.ค.ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 8.8% จากระดับ 8.9% ในเดือนก่อนหน้านี้ และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2552 ซึ่งทำสถิติลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 จากระดับ 9.8% ในเดือนพ.ย. 2553
โดยในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา การจ้างงานในภาคการผลิต บริการภาคธุรกิจ อุตสาหกรรมเหมือง การศึกษา และการดูแลสุขภาพมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ภาคการผลิต ซึ่งถูกมองว่าเป็นภาคอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐนั้นมีตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้น 17,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าคงทนอย่างผลิตภัณฑ์โลหะและเครื่องมือเครื่องจักร ส่งผลให้ยอดรวมการจ้างงานในภาคการผลิตสินค้าคงทนเพิ่มขึ้นแล้ว 243,000 ตำแหน่งนับจากระดับต่ำสุดเมื่อเดือนธ.ค. 2552
นักวิเคราะห์เผยว่า รายงานตัวเลขจ้างงานที่มีการเปิดเผยออกมาล่าสุดนี้บ่งชี้ว่า ภาวะการจ้างงานอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการฟื้นตัวอย่างยั่งยืน ซึ่งนี่เป็นปัจจัยที่หนุนให้นักลงทุนเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นมากขึ้น
ขณะเดียวกัน นักลงทุนไม่มีปฏิกิริยาต่อการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ อาทิ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐที่ลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 61.2 จุดในเดือนมี.ค. หลังจากพุ่งแตะที่ 61.4 จุดในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2547
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.พ.ที่ปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2542
สำหรับความเคลื่อนไหวในภาคธุรกิจที่เป็นปัจจัยต่อตลาดนั้น มีรายงานว่าเมื่อวานนี้ Nasdaq OMX และ Intercontinental Exchange ประกาศถึงการร่วมยื่นประมูลเพื่อซื้อกิจการ NYSE Euronext มูลค่า 1.13 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่ Deutsche Boerse ของเยอรมนียื่นข้อเสนอซื้อกิจการในก่อนหน้านี้ถึง 19% โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้หนุนให้ทั้งหุ้น Nasdaq และ NYSE ทะยานขึ้น 9.25% และ 12.60% ตามลำดับ