นายสุรเชษฐ์ นัยนภาเลิศ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ บมจ.เกียรติธนาขนส่ง(KIAT) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าใหม่จำนวน 5 ราย ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับปิโตรเคมีในพื้นที่ภาคตะวันออก คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ และบริษัทยังมีแผนจะขยายการให้บริการขนส่งสินค้าประเภทอื่นๆให้ครอบคลุมมากขึ้น เช่น สินค้าเคมีภัณฑ์ รวมถึงวัตถุอันตรายอื่นๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและสร้างรายได้ในอนาคต
"เราก็อยากโตไปกับลูกค้ารายปัจจุบันที่เรามีอยู่ แต่ทั้งนี้ก็คงไม่เพียงพอ เราก็เลยมองไปที่ตลาดยากๆ เช่น สินค้าเคมี วัตถุอันตรายต่างๆ ตอนนี้เราก็กำลังคุยกับลูกค้าใหม่ 5 ราย เป็นกลุ่มปิโตรเคมี แถบภาคตะวันออก มูลค่าของงานก็พอดี ๆ ลูกค้าปัจจุบันเรามีอยู่ 10 รายใช้กำลังการขนส่งอยู่ประมาณ 85% ก็สามารถทำยอดขายได้ 800 ล้านบาท"นายสุรเชษฐ์ กล่าว
สำหรับราคาน้ำมัน ซึ่งเป็นต้นทุนหลักในการดำเนินธุรกิจที่ปัจจุบันราคาปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น บริษัทก็ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากสามารถปรับราคาค่าขนส่งได้ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงอยู่แล้ว
"ธุรกิจเราต้นทุนหลักคือน้ำมัน ถ้าเราทำสัญญาวันไหนก็ใช้ราคาน้ำมันวันนั้น แต่เราก็ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะผลักภาระไปให้ลูกค้า ซึ่งลูกค้าเราส่วนใหญ่อย่าง PTT, PTTEP, PDI ก็ทำธุรกิจด้านนี้อยู่แล้วก็เข้าใจเราดี"นายสุรเชษฐ์ กล่าว
ด้านนางสาววิภา ตันติธนากรกุล กรรมการบริหารและรองกรรมการผู้จัดการฝ่ายบัญชีการเงิน กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 54 เติบโต 5-10% จากปี 53 ที่มีรายได้ 877.34 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทยังคงมีสัญญาระยะยาวกับลูกค้าหลายราย เช่น บมจ.ปตท.(PTT) นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนจะขยายการให้บริการขนส่งสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศที่มีการคมนาคมสะดวกและมีกฎหมายการขนส่งที่เอื้ออำนวยต่อการเข้าไปรับงาน
"เราก็อยากขยายการรับงานไปในประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น ปัจจุบันก็มีไปลาว ตอนนี้ทีมงานก็กำลังเข้าไปศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายของแต่ละประเทศ เพราะกฎหมายการขนส่งแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน ต้องศึกษาให้ละเอียดก่อนตัดสินใจเข้าไป ปีนี้สัดส่วนลูกค้าต่างประเทศก็น่าจะไม่เกิน 5%"นางสาววิภา กล่าว