MAJOR คาดรายได้ Q1/54 โต 15-20% จาก Q1/53, เพิ่มสัดส่วนรายได้ค่าเช่า

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 5, 2011 14:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิชา พลูวราลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป(MAJOR) คาดว่ารายได้ในไตรมาส 1/54 จะโต 15-20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากธุรกิจภาพยนตร์ที่เป็นรายได้หลัก มีรายได้สัดส่วน 60-70% เติบโตอย่างมาก เนื่องจากมีจำนวนภาพยนตร์ที่เข้าฉายในปีนี้ค่อนข้างมากทั้งภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศ

โดยเฉพาะเรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ ที่ในปีนี้ทั้งภาค 3 และ ภาค 4 ซึ่งบริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท โดย 4 วันแรกที่เปิดตัวภาค 3 ก็ทำรายได้เกินเป้า 100 ล้านบาทไปแล้ว ขณะที่ภาพยนตร์ต่างประเทศฟอร์มยักษ์ภาคต่อ ได้แก่ ทรานส์ฟอร์มเมอร์ , แฮร์รี่พอร์ตเตอร์ เป็นต้น จะเข้าฉายปีนี้เช่นกัน ดังนั้น จะทำให้รายได้ในไตรมาสที่เหลือโตต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเป้าหมายการเติบโตในปีนี้ที่ไม่ต่ำกว่า 15-20% ซึ่งเป็นการตั้งเป้าหมายแบบอนุรักษ์นิยม

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากค่าเช่าเพิ่มเป็น 10% จากปัจจุบันมีสัดส่วน 8-9% หลังจากที่บริษัทได้มีการปรับพื้นที่โรงภาพยนตร์ในห้างบิ๊กซี ราชดำริ ซึ่งมีพื้นที่ 2.1 หมื่น ตร.ม.ให้เป็นพื้นที่เช่าทั้งหมด โดยห้างบิ๊กซีได้ตกลงเช่าพื้นที่ของบริษัท จำนวน 1.6 หมื่น ตร.ม. ส่วนที่เหลือร้านแมคโดนัลด์เป็นผู้เช่า ซึ่งคาดว่าจะทำให้รายได้ให้บริษัทดีขึ้นกว่าเดิม จากปีก่อนที่ประสบผลขาดทุน เพราะเกิดเหตุเพลิงไหม้และผลกระทบการชุมนุมทางการเมือง โดยบริษัทจะรับรู้รายได้จากค่าเช่าพื้นที่ดังกล่าว 6 ล้านบาทต่อเดือน ตั้งแต่เดือนพ.ค.54 เป็นต้นไป

สำหรับธุรกิจโบว์ลิ่ง นายวิชา มองว่า เติบโตได้ดีทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาช่วงปิดเทอมมีนักเรียนนักศึกษาเข้ามาใช้บริการมากขึ้น ขณะที่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะในอินเดียก็มีอัตราการเติบโตที่ดี บริษัทจึงมีแผนเพิ่มเลนโบวลิ่งอีก 26 เลน จากป้จจุบัน 24 เลน และจะให้ครบ 200 เลนภายใน 3 ปีหรือภายในปี 56 ในประเทศอินเดีย โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 70 ล้านบาท จากงบลงทุนรวมปีนี้จำนวน 500 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะใข้ในการขยายสาขาและปรับปรุงโรงภาพยนตร์ในประเทศ

ทั้งปี บริษัทจะทยอยปรับราคาตั๋วชมภาพยนตร์ เฉลี่ย 3-5% ในปีนี้ ซึ่งที่ผ่านมาปรับในบางสาขาแล้ว เช่น พารากอน

นายวิชา กล่าวว่า ในเดือน พ.ค.นี้ บริษัทมีแผนจะไปโรดโชว์ที่ประเทศสิงคโปร์พร้อมโบรกเกอร์ หลังจากที่ไปโรดโชว์ที่ประเทศอังกฤษ เมื่อต้นปี 54 ได้รับการตอบรับจากนักลงทนที่ดี และเชื่อว่าการไปโรดโชว์ที่สิงคโปร์ก็จะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน และจะทำให้นักลงทุนมีความสนใจเข้ามาถือหุ้น MAJOR เพิ่มขึ้น ซึ่งตรงกับเป้าหมายที่ต้องการให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 35% จากปัจจุบัน 20% ซึ่งจะส่งผลให้ราคาหุ้นแข็งแกร่ง เพราะนักลทุนต่างชาติที่ลงทุนในบริษัทที่ผ่านมาถือลงทุนในระยะยาว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ