นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง(GUNKUL)เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับเพิ่มประมาณการรายได้รวมปี 54 เป็น 2,300 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 90% จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 30% เป็นผลมาจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ยังคงมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งบริษัทยังทยอยรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่โครงการแรก เฟส 1 ขนาด 3.3 เมกกะวัตต์ได้ก่อสร้างและเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่เฟส 2 ขนาด 4.4 เมกกะวัตต์ อยู่ระหว่างดำเนินการและคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าได้ประมาณกลางปีนี้ ส่วนโครงการที่เหลือจะทยอยสร้างและรับรู้รายได้ถึงปี 56
นอกจากนี้ในส่วนของงานรับเหมาอุปกรณ์ไฟฟ้ายังคงขยายตัวอยู่ในทิศทางที่ดี ส่วนการขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ประเทศพม่าถือว่าเติบโตค่อนข้างมาก ปีนี้คาดว่าการเติบโต 100% เนื่องจากพม่าเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา จะเห็นได้ว่าปัจจุบันพม่ามีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพียง 4,000 เมกกะวัตต์ เมื่อเทียบกับประเทศไทยที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 25,000 เมกกะวัตต์
สัดส่วนรายได้หลักปีนี้ จะมาจากธุรกิจการจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าประมาณ 50% ธุรกิจพลังงานทดแทนประมาณ 30% ส่วนที่เหลือเป็นรายได้ที่มาจากการจำหน่ายสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศ ปัจจุบัน GUNKUL มีงานที่อยู่ในมือ (Backlog) แล้วจำนวนกว่า 800 ล้านบาท โดยบริษัทยังคงเดินหน้าประมูลงานอย่างต่อเนื่อง
"จากการที่ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ยังมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ ส่วนตลาดส่งออก โดยเฉพาะที่ประเทศพม่าที่ยังมีศักยภาพสามารถที่จะเติบโตได้อีกมาก รวมถึงการเดินหน้าประมูลงานอย่างต่อเนื่องทำให้คาดว่าอัตราการเติบโตของรายได้ปีนี้น่าจะเติบโตตามเป้าหมายใหม่ที่ตั้งไว้ที่ระดับ 2,300 ล้านบาท"นางสาวโศภชา กล่าว