(เพิ่มเติม) BCP สรุปผู้ร่วมทุนโซล่าร์ฟาร์ม ต.ค.-เล็งเพิ่มกำลังผลิต,EBITDA ปีนี้สูงกว่า 6 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 5, 2011 17:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) คาดว่า ในเดือนค.ค.นี้บริษัทจะได้ข้อสรุปการร่วมทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ ผ่านบริษัท บางจากโซล่าร์เอนเนอยี่ จำกัด และมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตจาก 120 เมกะวัตต์ เป็น 200 เมกะวัตต์

"แผนการร่วมทุนเราไม่รีบร้อนอะไร ตอนนี้ก็กำลังศึกษาอยู่ว่าจะทำอย่างไรบ้าง แต่ก็อยากได้ช้อสรุปภายในเดือนตุลาคมนี้ และเราตั้งใจขยายกำลังการผลิตเป็น 200 เมกะวัตต์ คิดว่ารัฐบาลคงน่าจะกลับมาดู อาจมีการสนับสนุนหลังเกิดปัญหาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แต่ ADDER ได้แค่ 6.50 บาท แต่ก็มองว่าต้นทุนแผง(โซล่าร์) น่าจะถูกลงหลังมีผู้ผลิตมากขึ้น น่าจะช่วยชดเชยได้" นายอนุสรณ์ กล่าว

BCP คาดว่าปี 54 รายได้จะอยู่ในระดับ 1.5-1.6 แสนล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 1.3 แสนล้านบาท หรือเติบโต 20% ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น คาดว่าราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยในปีนี้จะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยมี EBITDA สูงกว่าปีก่อนที่มี EBITDA ราว 6 พันล้านบาท ตามกำลังการกลั่นที่เพิ่มขึ้น อัตรากำไร(มาร์จิ้น)สูงขึ้น และมีรายได้ธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจใหม่คาดว่าจะมี EBITDA ราว 370 ล้านบาทในปีนี้

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ค่าการกลั่นของ BCP ในขณะนี้ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 7 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และปรับเพิ่มกำลังการกลั่นมาที่ 110,000 บาร์เรล/วัน โดยคาดว่าทั้งปีนี้กำลังกลั่นเฉลี่ยจะอยู่ที่ 90,000 บาร์เรล/วัน

สำหรับค่าการกลั่นที่ดีขึ้นมาจากหลายปัจจัย เช่น กรณีอุบัติภัยในญี่ปุ่น ทำให้มีความต้องการน้ำมันดีเซลและน้ำมันเตาเพื่อผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น นอกจากนั้น จากเศรษฐกิจอินโดนีเซียที่ขยายตัวต่อเนื่อง ทำให้มีความต้องการนำเข้าน้ำมันดีเซลสูงขึ้นด้วย ส่งผลให้มาร์จิ้นของดีเซลขยับตัวดีขึ้นจาก 16-17 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล มาอยู่ที่ 23-24 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

และจากการที่หน่วยปรับปรุงคุณภาพการกลั่นดีเซลกำลังเดินเครื่องแล้ว ทำให้บริษัทสามารถกลั่นดีเซลเพิ่มขึ้น และมีการส่งออกน้ำมันเตาประมาณ 50 ล้านลิตร/เดือน ดีเซล 15-20 ล้านลิตร/เดือน แนฟทา 4-5 ล้านลิตร/เดือน

นอกจากนี้ ประมาณปลายปีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาเซลล์ของบางจากจะเริ่มผลิตจะมีผลทำให้ EBITDA ของ BCP เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาทในปึ 55 แต่ในปีนี้จะมี EBITDA จากส่วนธุรกิจดังกล่าว 120 ล้านบาท ขณะที่ไบโอดีเซลจะมี EBITDA ในปีนี้ 250 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในวันนี้ได้เสนอขออนุมัติต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น BCP เพื่อกำหนดกรอบวงเงินกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินหรือออกหุ้นกู้รวม 15,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการลงทุนใน 5 ปีข้างหน้า(ปี 54-58)ที่จะมีวงเงินลงทุนรวม 17,000 ล้านบาท โดยโครงการสำคัญ เช่น การผลิตโซลาร์เซลล์เพิ่ม 8,000 ล้านบาท ซึ่งปีนี้จะมีการลงทุนโรงใหม่ 32 เมกะวัตต์ และปี 55 อีก 40 เมกะวัตต์

การร่วมลงทุนโรงงานเอทานอลเพิ่มอีก 2 โรง จากปัจจุบันลงทุนแล้ว 1 โรง วงเงินลงทุนเพิ่มอีกประมาณ 2,000 ล้านบาท, โครงการเหมืองโปรแตซอาเซียน ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นจาก 16% เป็น 25% ใช้เงินเพิ่มอีก 3,000 ล้านบาท, การผลิตพืชพลังงานทดแทน ทั้งการปลูกปาล์มน้ำมันบนพื้นที่ 1 หมื่นไร่ โรงสกัดน้ำมันในโครงการสวนส้มร้างที่รังสิต การปลูกมันสำปะหลัง การลงทุนการผลิตสาหร่ายเพื่อทำไบโอดีเซล วงเงินอีก 1,000 ล้านบาท เป็นต้น

"IRR จากตัวไบโอดีเซลอยู่ที่ 17% ซึ่งเราก็มองว่าอยู่ในระดับที่ดี ค่อนข้างสูง...เรามีแผนจะไปปลูกปาล์มที่ที่ดินร้างที่รังสิตประมาณ 1 หมื่นไร่ เพื่อนำมาผลิตเป็นไบโอดีเซล แล้วก็คงสร้างโรงงานสกัดนร้ำมันปาล์มแถว ๆ นั้นด้วย" นายอนุสรณ์ กล่าว

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ภายหลังการลงทุนตามแผน 5 ปี จะทำให้ BCP มี EBITDA เพิ่มเป็น 7,000-8,000 ล้านบาท ทำให้การร่วมลงทุนในพลังงานทดแทนรายได้ของบางจากจะมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น

ส่วนกรณีเกิดน้ำท่วมในภาคใต้ บริษัทไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แม้ว่าคลังน้ำมันในจ.สุราษฎร์ธานี จะส่งน้ำมันได้น้อยลง แต่บริษัทได้นำน้ำมันจากคลังที่สมุทรสาครส่งไปชดเชยแทน ซึ่งตามถนนใหญ่ไม่ค่อยมีน้ำท่วมขัง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ