นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู(BANPU)เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นยังไม่มีการยกเลิกคำสั่งซื้อถ่านหินปริมาณ 5 ล้านตันหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิ เพียงแต่เปลี่ยนท่าเรือส่งมอบสินค้า ทั้งนี้ บริษัทจึงจะรอเวลาอีก 6 เดือนจึงจะประเมินผลกระทบจากเหตุภัยพิบัติในญี่ปุ่นได้เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจน
แนวโน้มราคาถ่านหินในระยะสั้นช่วง 1-2 เดือนราคาถ่านหินจะอ่อนตัวลงเล็กน้อยจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยในญี่ปุ่น ซึ่งมีการส่งมอบล่าช้า และยังไม่รู้ว่าปริมาณความต้องการที่แท้จริงในญี่ปุ่น แต่มองว่าใน 6-12 เดือนคาดว่าราคาถ่านหินจะเพิ่มสูงขึ้น จากการที่ญี่ปุ่นมีความต้องการถ่านหินเพิ่มขึ้น เพราะต้องใช้ปูนซิเมนต์และเหล็กเพิ่ม จึงเห็นว่าระยะกลางระยายาวเป็นบวกอยู่ โดยขณะนี้ ราคาถ่านหินอยู่ที่ 124 เหรียญสหรัฐ/ตัน
"driver ปริมาณถ่านหินที่เกิดจากในญี่ปุ่นมีต่อตลาดน้อย เมื่อเทียบกับสภาพภูมิอากาศ เช่น ฝนตกเยอะไม่เยอะ น้ำท่วมน่าจะ drive ได้มากกว่า"นายชนินท์ กล่าว
นอกจากนี้ นายชนินท์ คาดว่า เดือนพ.ค.นี้จะได้ความชัดเจนเกี่ยวกับการวางแผนธุรกิจระยะยาวของเหมือง Centennial Coal ในออสเตรเลีย หลังจากเข้าซื้อกิจการเมื่อปีที่แล้ว หลังจากนั้นจะทำเป็นแผนชั่วคราวสำหรับปี 54 ส่วนที่เหลือจะนำไปรวมกับแผนระยะยาวของ BANPU โดยธุรกิจเหมืองในออสเตรเลียเน้นสร้างมูลค่าเพิ่มจากธุรกิจที่มีอยู่ และรักษาระดับการผลิตถ่านหิน รวมทั้งใช้งบลงทุนที่เหมาะสม และการบริหารความปลอดภัย โดยระหว่างนี้มีการประชุมผู้บริหาร Centennial Coal กับ ผู้บริหาร BANPU อย่างต่อเนื่อง
"แผนเดิมของ Centennial ขายในประเทศ 70% ก็เลยเข้าไปดูว่าจะเพิ่มการส่งออกได้หรือไม่ และลดการขายในประเทศ ให้ เหลือ 50% เพราะห็นว่าราคาส่งออกสูงขึ้นก็จะได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อดีข้อเสีย ถ้าขายไปต่างประเทศได้ราคาสูงก็จริงแต่ข้อเสียมีการล้างและการขนส่งเยอะ แต่ถ้าขายในประเทศต้นทุนขนส่งไม่มาก"นายชนินท์ กล่าว
ในแผน 5 ปี( 54-58) บริษัทยังมุ่งเน้นธุรกิจถ่านหินเป็นหลัก โดยงบลงทุนจะไปใช้ในอินโดนีเซีย และออสเตรเลียเป็นหลัก
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BANPU กล่าวว่า ในปี 54 สภาพภูมิอากาศผันผวน ส่งผลให้ราคาน้ำมัน, ถ่านหิน และพืชผลการเกษตรมีราคาผันผวนรุนแรงการบริหารจะยากขึ้น และบริษัทยังมีความเสี่ยงเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ปัจจุบันที่มีแนวโน้มขาขึ้น เพราะปีก่อนบริษัทใช้เงินกู้มากในการซื้อกิจการในออสเตรเลีย
นายชนินท์ ยอมรับกังวลธุรกิจในจีน จากนโยบายของรัฐบาลจีนที่เกี่ยวข้องกับถ่านหิน ซึ่งบริษัทไม่รู้ว่าจะเดินหน้าอย่างไร ดังนั้นในปีนี้จะรอประเมินสถานการณ์เชิงกลยุทธก่อนจะดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ บริษัทยืนยัน ยังไม่มีแผนขายเหมืองเกาเหอ (ถือหุ้น 45%) กับเหมืองเหอปี้ (ถือหุ้น 40%)เนื่องจากมองว่าความเสี่ยงเรื่องใบอนุญาตน้อยกว่าเหมืองต้าหนิง (ถือหุ้น 56%) แต่ก็จะไม่เพิ่มการลงทุนในจีน
เมื่อ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา บริษัท AACI SAADEC (BVI) Holdings Limited ( SAADEC (BVI) ) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นทั้งหมดร้อยละ 100 ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับบริษัท China Resources Coal Holdings Co., Ltd.(ผู้ซื้อ) โดย SAADEC (BVI) ได้ตกลงจำหน่ายหุ้นทั้งหมดร้อยละ 100 ใน SAADEC (HK) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 56 ในเหมืองถ่านหิน Shanxi Asian American Daning Energy Co.,Ltd.(SAADEC) ให้แก่ผู้ซื้อ