ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 เม.ย.) หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% และมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกส อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากภาวะการซื้อขายโดยรวมได้แรงหนุนจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่บ่งชี้ว่า คณะกรรมการเฟดยังคงเดินหน้ามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง หรือ QE2 ไปจนจบโครงการในเดือนมิ.ย.นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 6.13 จุด หรือ 0.05% แตะที่ 12,393.90 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 0.24 จุด หรือ 0.02% แตะที่ 1,332.63 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 2.00 จุด หรือ 0.07% แตะที่ 2,791.19 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 3.9 พันล้านหุ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์อ่อนตัวลงหลังจากธนาคารกลางจีนประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากอีก 0.25% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6.31% และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปี เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.25% โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อและราคาสินทรัพย์ที่พุ่งสูงขึ้น
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข่าวมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลโปรตุเกสลง 1 ขั้นสู่ Baa1 จาก A3 เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมือง งบประมาณ และแนวโน้มเศรษฐกิจของโปรตุเกส ซึ่งเป็นปัจจัยขัดขวางความพยายามของรัฐบาลในการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณที่กำหนดไว้ในโครงการสร้างเสถียรภาพและการขยายตัวในปี 2554-2557 และในการรักษาเสถียรภาพทางการเงินอย่างยั่งยืน
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซามากขึ้น เมื่อสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการเดือนมี.ค. ขยายตัวที่ระดับ 57.3 จุด แต่ตัวเลขดังกล่าวขยายตัวในอัตราที่ช้าลงเมื่อเทียบกับเดือนก.พ.ที่สามารถขยายตัวได้ถึง 59.7 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี
อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้แรงหนุนจากรายงานการประชุมของเฟดที่บ่งชี้ว่า คณะกรรมการเฟดยังคงเดินหน้ามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง หรือ QE2 ไปจนจบโครงการในเดือนมิ.ย.นี้
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิพคอมพิวเตอร์ปิดบวก หลังจากเท็กซัส อินสตรูเมนท์ ประกาศซื้อกิจการบริษัทเนชันแนล เซมิคอนดัคเตอร์ มูลค่า 6.5 พันล้านดอลลาร์ ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นเนชันแนล เซมิคอนดัคเตอร์ ปิดพุ่ง 71% ขณะที่หุ้นเท็กซัส อินสตรูเมนท์ปิดบวก 1.7%
ส่วนหุ้นผู้ผลิตวัสดุพื้นฐานปิดทะยานขึ้นเนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะปรับตัวสูงขึ้นอีก โดยหุ้นอัลโค อิงค์ ปิดบวก 2.8% หุ้นนิวมอนท์ ไมนิ่ง คอร์ป ปิดบวก 4.4% และหุ้นดาว เคมิคอล ปิดบวก 1.3%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกเปิดเผยดัชนีการผลิตเขตมิดเวสต์เดือนก.พ.และสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์
ส่วนวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนก.พ.