ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 17.26 จุดหลังเกิดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 8, 2011 06:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) หลังจากเกิดแผ่นดินไหว 7.4 ริกเตอร์ประเทศญี่ปุ่นในช่วงค่ำวานนี้ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 17.26 จุด หรือ 0.14% แตะที่ 12,409.49 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 2.03 จุด หรือ 0.15% แตะที่ 1,333.51 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 3.68 จุด หรือ 0.13% แตะที่ 2,796.14 จุด

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงหลังจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.4 ริกเตอร์ที่จังหวัดมิยากิ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเมื่อเวลาประมาณ 21.32 น.ตามเวลาไทยเมื่อวานนี้ และมีการเตือนภัยคลื่นสึนามิ อย่างไรก็ตาม สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้ยกเลิกการประกาศเตือนภัยคลื่นสึนามิในภายหลัง

เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดในญี่ปุ่นได้เพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์นิวเคลียร์และแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น แม้บริษัทโตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ (เทปโก) ยืนยันว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่จังหวัดฟูกุชิม่า ซึ่งรวมถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่า ไดอิจิ ไม่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดนี้ก็ตาม

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยลบจากข่าวธนาคารกลางยุโรปประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551 หรือในรอบเกือบ 3 ปี

นักวิเคราะห์คาดว่า การที่ธนาคารกลางยุโรปประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้สะท้อนถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อในยูโรโซน หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนมี.ค.ในยูโรโซนพุ่งขึ้น 2.6% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางที่ 2% นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรปอาจจะขึ้นดอกเบี้ยอีกหลายครั้งนับจากนี้ และอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม จำนวนคนว่างงานที่ปรับตัวลดลงในสหรัฐสามารถสกัดแรงลบในตลาดได้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 เม.ย.ปรับตัวลง 10,000 ราย แตะระดับ 382,000 ราย ซึ่งปรับตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 385,000 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้น

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อรายงานยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ในสหรัฐ รวมถึงเมซี และเจซี เพนนี โดยหุ้นเมซีปิดบวก 1% หุ้นคอสโค โฮลเซลปิดบวก 4% หุ้นลิมิเต็ด แบรนด์ปิดบวก 1% และหุ้นนอร์ดสตรอมปิดบวก 1%

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนก.พ.ในคืนวันนี้ตามเวลาประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ