นายอนุพนธ์ ศรีอาจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.บีฟิท กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คงเคลื่อนไหวในกรอบแคบและมีโอกาสปรับตัวลงบ้าง หลังดัชนีฯปรับตัวขึ้นมามากแล้ว โดยปัจจัยในต่างประเทศมองว่าเป็นลบเล็กน้อย จากการที่ธนาคารกลางยุโรปมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อ แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่คาดการณ์กันไว้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามอาจเป็นอีกแรงกดดันที่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยตามมา
ส่วนกรณีการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหม่ที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงค่ำวานนี้ ก็ต้องรอติดตามความเสียหายต่างๆที่จะตามมา แต่มองว่าคงมีผลกระทบต่อตลาดฯไม่มากนัก
ด้านปัจจัยในประเทศเมื่อวานนี้ที่ประชุมสภาฯได้ผ่านกฎหมายลูกประกอบการเลือกตั้ง 3 ฉบับ โดยรอเข้าที่ประชุมวุฒิสภาในสัปดาห์หน้าหรือสัปดาห์ถัดไป ซึ่งทำให้ความชัดเจนเรื่องการยุบสภาและเรื่องตั้งใหม่มีมากขึ้น
ทั้งนี้ตลาดฯยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่มีเข้ามาต่อ โดยเฉพาะในกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น และการเก็งกำไรผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคเช้านี้ส่วนใหญ่แกว่งตัวในกรอบแคบ
แนะนำเมื่อดัชนีฯเข้าใกล้แนวต้าน 1,100 จุดให้ขายทำกำไร ส่วนแนวรับที่ 1,080 จุด
"วันนี้ตลาดฯอาจปรับลงบ้าง บวก-ลบไม่มาก คงแกว่งแคบ หลังปรับขึ้นมาแรงจากแรงซื้อของต่างชาติที่เข้ามาเล่นหุ้นใหญ่เยอะ แต่นักลงทุนไทยทั้งรายย่อยและสถาบันขาย อาจยังไม่ค่อยไว้วางใจ และสัปดาห์หน้าก็เทรดแค่ 2 วัน ตลาดฯคงเงียบลงบ้าง"นายอนุพนธ์ กล่าว
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(7 เม.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 12,409.49 จุด ลดลง 17.26 จุด(-0.14%)ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,333.51 จุด ลดลง 2.03 จุด(-0.15%)ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,796.14 จุด ลดลง 3.68 จุด(-0.13%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,921.14 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 110.30 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.47 ดอลลาร์
- เอดีบี แนะลงทุนภาครัฐกระตุ้นเศรษฐกิจระบุ 3 ปัจจัยลบ "น้ำมันแพง-ญี่ปุ่น-น้ำท่วมใหญ่ภาคใต้" หั่นเป้าจีดีพีไทยปีนี้หดเหลือ 4.1% จาก 4.5% แต่กรณีการเลือกตั้งผ่านไปอย่างราบรื่น คาด ธปท.ขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% ตลอดทั้งปี สู้เงินเฟ้อมีแนวโน้มแตะ 3.5% ขณะที่ ธปท.จับตาแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด ด้านหอการค้าประเมินน้ำท่วมใต้กระทบจีดีพี 0.24-0.29%
- เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 7.4 บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นอีก ทางการออกคำเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิในพื้นที่ชายฝั่งแถบนี้ แต่ยกเลิกหลังจากผ่านไปชั่วโมงครึ่ง ด้าน "เท็ปโก" เร่งอพยพคนงานออกพื้นที่ จีนตรวจพบสารกัมมันตรังสีปะปนอยู่ในอากาศใน 22 มณฑล ส่วนที่เกาหลีใต้ปิดโรงเรียนกลัวฝนตกเปื้อนรังสี ล่าสุดพบผักจากญี่ปุ่นปนเปื้อนรังสีเข้าไทยอีกแล้ว ด้าน สธ.เพิ่มกฎเหล็กนำเข้าอาหารจากญี่ปุ่น
- พาณิชย์เตรียมชงครม.สัปดาห์หน้า แผนเยียวยาธุรกิจพื้นที่ 10 จังหวัดภาคใต้ ของบ 2 พันล้านบาท ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ กู้ได้รายละ 5 ล้านบาท ด้านแบงก์ออมสินพร้อมจ่ายเงินชดเชยผู้ประสบภัยน้ำท่วม
- นายกฯเบรกขึ้นราคาปุ๋ยตามข้อเสนออนุกรรมการพิจารณาราคาปุ๋ยอนุมัติปรับพรวดเดียว 10-35% โขกปุ๋ยยูเรียมากที่สุด 2.4-3.2 พันบาทต่อตัน ยันขึ้นราคาต้องหารือครม. "พรทิวา"สั่งกรมการค้าภายใน อคส.หารือกรมวิชาการเกษตรนำเข้าเองผลิตปุ๋ยธงฟ้า 1 แสนตัน ดัดหลังพ่อไม่นำเข้า อ้างต้นทุนสูง
- กบง.ชดเชยราคาดีเซลครั้งที่ 14 เพิ่มอีก 50 สตางค์ต่อลิตรเป็นชดเชย 5.90 บาทต่อลิตร ทำเงินกองทุนไหลออกเพิ่มเป็นวันละ 375.75 ล้านบาท รวมชดเชยไปแล้วเกือบ 2 หมื่นล้านบาท คาด 12 เม.ย.นี้มีประชุม กบง.อีกรอบ แต่ต้องลุ้นว่าจะชดเชยเพิ่มหรือลดการชดเชยพร้อมสั่ง ปตท.-บางจากสำรองน้ำมันรับสงกรานต์
- สมาคมนักวิเคราะห์ปรับเพิ่มดัชนีปีนี้เป็น 1,181 จุด จาก 1,133 จุด รับอานิสงส์เงินทุนไหลเข้า-การเมืองมีเสถียรภาพ 95% ฟันธงมีเลือกตั้งเกิดขึ้น ประเมินต่างชาติซื้อสุทธิปีนี้กว่า 4 หมื่นล้านบาท ห่วงปัจจัยลง "น้ำมัน-เงินเฟ้อ-ดอกเบี้ย" ยกกลุ่มโรงแรมปิโตร-อาหารโตสูงสุด ขณะที่หุ้นวานนี้บวก 13 จุด ลุยพลังงาน-แบงก์ รับน้ำมันพุ่งและเก็งผลประกอบการ